เมื่อวันพุธ (12 ต.ค.) นิตยสารไทมส์ ไฮเออร์ เอดูเคชัน (THE) ของสหราชอาณาจักร เปิดเผยผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลก ประจำปี 2023 ซึ่งพบว่ามีมหาวิทยาลัยจากจีนแผ่นดินใหญ่ 7 แห่ง ติดใน 100 อันดับแรก เพิ่มขึ้นจาก 6 แห่งเมื่อปีก่อน
มหาวิทยาลัยชิงหัว และมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ติดอันดับที่ 16 และ 17 ตามลำดับ ขณะที่มหาวิทยาลัยอีก 5 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยฟู่ตั้น มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เจียวทง มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศจีน และมหาวิทยาลัยหนานจิง
ฟิล บาตี หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายความรู้ของนิตยสาร เผยว่า แม้กลุ่มมหาวิทยาลัยฝั่งตะวันตกจะยังคงครองอันดับต้นๆ ในการจัดอันดับปีนี้ ทว่ากลุ่มมหาวิทยาลัยเอเชียตะวันออกและตะวันออกกลางต่างกำลังไต่อันดับขึ้นมาเช่นกัน
บาตีคิดว่าความก้าวหน้าดังกล่าวถือเป็นข่าวดีสำหรับทั่วโลก พร้อมเสริมว่าการเข้าถึงการศึกษาคุณภาพสูงกำลังเปิดกว้างทั่วโลก และช่วยลดการเกิดภาวะสมองไหล (Brain Drain) หรือการย้ายถิ่นฐานของเหล่าหัวกะทิจากกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาลงได้
การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกปีนี้ ครอบคลุมมหาวิทยาลัย 1,799 แห่งจาก 104 ประเทศและภูมิภาค ทำให้กลายเป็นหนึ่งในการจัดอันดับมหาวิทยาลัยที่มีขนาดใหญ่และหลากหลายที่สุด โดยประเมินจากผลการปฏิบัติงาน 5 ด้าน ได้แก่ การสอน การวิจัย ผลงานทางวิชาการที่ได้รับการอ้างอิง ความเป็นสากล และรายได้ทางอุตสาหกรรม
อนึ่ง มหาวิทยาลัยสองอันดับแรกของโลกในปีนี้ ได้แก่ มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด และมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ตามลำดับ ส่วนมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ และมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดครองอันดับ 3 ร่วมกัน