xs
xsm
sm
md
lg

‘Home Coming’ หนังปลุกกระแสรักชาติจีน ทำรายได้บ็อกซ์ออฟฟิศสูงสุดใน ‘วันชาติจีน’ แบบยิ้มแห้งๆ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


โปสเตอร์โฆษณาภาพยนตร์จีนแนวรักชาติ ‘Home Coming’ ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้บ็อกซ์ออฟฟิศสูงสุดในช่วงวันหยุดเทศกาลวันชาติปี 2022 นี้ (ภาพจากโซเชียลมีเดียจีน เวยปั๋ว)
ขณะนี้เจ้าของ และผู้สร้างภาพยนตร์ในจีนดูจะต้องทำใจกันแล้วกับการทำรายได้จากห้องขายตั๋วภาพยนตร์ หรือบ็อกซ์ออฟฟิศในปีนี้ โดยประเมินจากรายได้บ็อกซ์ออฟฟิศในวันแรกของสัปดาห์วันหยุดยาวแห่งเทศกาลวันชาติจีน คือวันที่ 1 ต.ค. ซึ่งผลประกอบการในวันนี้เป็นมาตรวัดรายได้บ็อกซ์ออฟฟิศในแต่ละปีของจีน

ผลประกอบการและรายได้บ็อกซ์ออฟฟิศในวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ลดฮวบเกือบ 58 เปอร์เซ็นต์ปีต่อปี เทียบกับปีก่อนหน้า จัดว่าเป็นรายได้ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ของภาพยนตร์ที่เข้าฉายรอบปฐมทัศน์ระหว่างช่วงสัปดาห์ทองวันหยุดในเทศกาลวันชาติจีน ซึ่งโดยปกติแล้วหนังที่เข้าฉายในโรงรับช่วงวันหยุดยาวของวันชาติจีนนี้จะห้ำหั่นศึกการตลาดกวักเรียกผู้ชมกันอย่างดุเดือด

ยิ่งไปกว่านี้คนดูหนังในวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ลดลงกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ เท่ากับจำนวน 6.39 ล้านคน จากข้อมูลสถิติของบริษัท อาลีบาบา

โปสเตอร์ภาพกลุ่มนักแสดนำของภาพยนตร์จีนแนวรักชาติจีน ‘Home Coming’ (ภาพจากโซเชียลมีเดียจีน เวยปั๋ว)
สำหรับภาพยนตร์ที่ฉายรอบปฐมทัศน์รับวันชาติจีน เรื่องที่ทำรายได้บ็อกซ์ออฟฟิศมากสุด คือ ภาพยนตร์แนวรักชาติ Home Coming โกยรายได้ไปเกือบ 60 ล้านเหรียญสหรัฐ หนังเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องราวของวีรบุรุษผู้ช่วยเหลือพลเมืองจีนที่กำลังตกอยู่ในอันตรายในดินแดนต่างชาติ โดยเจ้าหน้าที่การทูตจีน 2 คนต้องกลับไปยังเขตสงครามปี 2011 ในลิเบีย เพื่อช่วยชีวิตชาวจีน 125 คน

จากข้อมูลสถิติอีกชุดจัดทำโดยบริษัทที่ปรึกษา Artisan Gateway ระบุว่า Home Coming ฉายรอบปฐมทัศน์ในวันศุกร์ (30 ก.ย.) และทำรายได้ 59.3 ล้านเหรียญสหรัฐ (421 ล้านหยวน) ครองส่วนแบ่งตลาด 67 เปอร์เซ็นต์

นักแสดงนำในภาพยนตร์ ‘Home Coming’ หวังจวินข่าย (ซ้าย) และจางอี้ ระหว่างการแถลงในวันฉายหนังรอบปฐมทัศน์ในปักกิ่ง (ภาพจาก ไชน่า เดลี)
แม้ช่วงวันศุกร์ และวันเสาร์ที่ผ่านมา รายได้บ็อกซ์ออฟฟิศทั้งหมดเท่ากับ 88 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งกระเตื้องขึ้นมาจากช่วงซบเซาในช่วงวันหยุดยาว 2 เทศกาลก่อนหน้านี้ แต่จะไม่ช่วยอะไรมาก คาดว่ารายได้บ็อกซ์ออฟฟิศปีนี้จะฝ่อแฟบลงไปมาก

ปัญหาที่ก่อกระแสซบเซาในภาคละครและภาพยนตร์ในจีน ได้แก่ ซัปพลายภาพยนตร์ในท้องถิ่นที่น่าดึงดูดลดน้อยลง ช่วงเทศกาลวันหยุดที่เพิ่มขึ้น การขาดแคลนภาพยนตร์จากต่างประเทศโดยเฉพาะหนังจากฮอลลีวูด และมาตรการควบคุมโรคระบาดโควิด-19 ที่เข้มข้นเป็นพิเศษของจีน ที่มีทั้งมาตรการล็อกดาวน์ การตรวจโควิดแบบปูพรม และข้อจำกัดการเดินทาง

นอกไปจากนี้แล้ว ปัจจัยที่ทำให้การเสพความบันเทิงจากละครและภาพยนตร์ในจีนซบเซาลงไปเช่นนี้ คือ ปัญหาเศรษฐกิจ อัตราว่างงานที่สูงขึ้น และวิกฤตปัญหาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งบั่นทอนอำนาจการใช้จ่ายของประชาชน

นักแสดงนำในภาพยนตร์ ‘Home Coming’ (จากขวาไปซ้าย) จางอี้ หวังจวินข่าย และอินเถา (ภาพจากโซเชียลมีเดียจีน เวยปั๋ว)
เปรียบเทียบระหว่าง “Homecoming” หนังทำรายได้สูงสุดประจำเทศกาลวันชาติจีนปีนี้ กับ “The Battle at Lake Changjin” ที่ฉายรอบปฐมทัศน์รับวันชาติจีนปีที่แล้วที่ทำรายได้ถึง 203 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วง 3 วันที่เข้าฉาย “Homecoming” ยังทำรายได้น้อยกว่าหนังทำรายได้สูงในอันดับที่ 2 ในสุดสัปดาห์แรกของเทศกาลวันชาติปีที่แล้ว เรื่อง “My Country, My Parents” ซึ่งรับทรัพย์ไป 76 ล้านเหรียญสหรัฐ

ผู้กำกับภาพยนตร์ Home Coming (万里归途) คือ เหราเสี่ยวจื้อ (饶晓志) กล่าวในงานเปิดตัวหนังรอบปฐมทัศน์ในปักกิ่งว่า เขาและผู้สร้างหลักได้ขุดข้อมูลจากรายงานข่าวและเอกสารมากมายเพื่อสร้างเนื้อเรื่องที่ตื่นเต้นระทึกใจ และสร้างชั่วขณะแห่งความซาบซึ้งใจ

สำหรับนักแสดงนำของเรื่อง คือ จางอี้ (张译) หวังจวินข่าย(王俊凯) อินเถา(殷桃)

ส่วนฉากเมืองแอฟริกันนั้น เป็นฉากที่ตกแต่งขึ้นที่เมืองสือจุ่ยซัน เขตปกครองชนชาติหุบมณฑลหนิงเซี่ยของจีน และถ่ายทำด้วยระบบภาพยนตร์ Imax

โปสเตอร์อัปเดตรายได้บ็อกซ์ออฟฟิศของภาพยนตร์เรื่อง ‘Home Coming’ ที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ 5 วัน โดยข้อมูลที่สรุปเมื่อวันที่ 4 ต.ค. ทะลุ 600 ล้านหยวน (ประมาณ 84


กำลังโหลดความคิดเห็น