xs
xsm
sm
md
lg

สู้ชีวิตแต่ชีวิตสู้กลับ! หนุ่ม ป.เอก รับจ๊อบส่งอาหารหาเงินรักษาลูกชายป่วยหนัก แต่กลับโดนดูถูก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เมิ่งเหว่ย นักศึกษาปริญญาเอกรับจ๊อบส่งอาหาร หาเงินรักษาลูกชายป่วยหนัก แต่กลับโดนดูถูก (ภาพจาก : superpyq.com)
เรื่องราวของ "เมิ่งเหว่ย" นักศึกษาปริญญาเอก มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง ที่ต้องพบกับมรสุมชีวิตรุมเร้า เมื่อเขาล้มเหลวในการทำวิทยานิพนธ์ ซ้ำร้ายลูกชายที่เพิ่งเกิดได้ไม่นานก็ดันมาป่วยหนัก งานนี้คุณพ่อใจสู้จึงหันไปรับจ๊อบขี่รถส่งอาหาร เพื่อหาเงินมารักษาลูกชาย และเป็นค่าเล่าเรียน แต่กลับโดนคนวิจารณ์ว่าต่ำต้อย

ย้อนกลับไปในปี 2014 เส้นทางการคว้าใบปริญญาเอกของเมิ่งเหว่ย ได้เริ่มต้นขึ้น ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ ทว่าหลายปีผ่านไปการทำวิทยานิพนธ์ของเขายังไม่สำเร็จเสียที นอกจากนี้ ความเครียดและความกดดันต่างๆ ยังทำให้เขาเป็นโรคซึมเศร้า แต่เขาไม่เคยละทิ้งความตั้งใจและยังคงพยายามต่อไป

กระทั่งปี 2021 เมิ่งได้รับข่าวร้าย เมื่อคุณหมอตรวจพบว่า ลูกชายของเขาป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน (Fulminant myocarditis) ซึ่งรุนแรงจนอาจเสียชีวิต ด้วยความเป็นพ่อ เมิ่งจึงทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาลูกของเขา ซึ่งมันแลกมากับภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ เขาจึงตัดสินใจไปรับจ๊อบส่งอาหาร

ลูกชายของเมิ่งเหว่ย ซึ่งป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน (ภาพจาก : Weibo)
นอกจากนี้ เมิ่งเหว่ยยังได้อัดคลิป เผยเรื่องราวชีวิตของเขาลงบนแอปพลิเคชันยอดฮิตอย่างโต่วอิน (ติ๊กต็อกเวอร์ชันจีน) สร้างความสนใจให้ชาวเน็ตเป็นอย่างมาก จนมียอดผู้เข้าชมสูงถึง 7 ล้านวิว หากแต่คอมเมนต์วิจารณ์ในเชิงลบต่างๆ ก็มีมากเสียจนเขาต้องอัดคลิปชี้แจง

"ผมไม่มีเงิน...การทำงานเป็นคนขับรถส่งอาหารเป็นงานที่เหมาะสม เพราะไม่เพียงจะเป็นแหล่งรายได้ที่มั่นคง แต่งานนี้ยังช่วยให้ผมผ่อนคลายจากการเรียนได้อีกด้วย" เมิ่งเหว่ย กล่าว พร้อมเสริมอีกว่า การเป็นคนขับรถส่งอาหารไม่ได้ทำให้เขารู้สึกต่ำต้อยเลย รวมทั้งขอโทษที่ทำให้มหาวิทยาลัยเสื่อมเสียชื่อเสียง

เมิ่งเหว่ยอัดคลิปขอโทษ (ภาพจากสื่อจีน : 163.com)
ภายหลังเรื่องราวของเมิ่งเหว่ยถูกเผยแพร่เป็นวงกว้าง โดยผู้คนส่วนใหญ่ล้วนกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ผู้ที่ทำงานหนักไม่ควรต้องรู้สึกอับอาย พร้อมคอมเมนต์ เช่น “ไม่มีความต่ำต้อยหรือความสูงส่งในงานใดๆ การหาเลี้ยงชีพด้วยการทำงานอย่างหนักควรค่าแก่การยกย่อง” และ "เขาเป็นทั้งนักศึกษาปริญญาเอกและเป็นพ่อที่มีความรับผิดชอบ"

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีชาวเน็ตบางรายที่สงสัยว่า ถ้าเขาคิดว่างานนี้ไม่ใช่อาชีพที่ต่ำต้อยจริงๆ ทำไมเขายังต้องเรียนมหาวิทยาลัย...เรียนให้จบปริญญาเอก รวมทั้งยังสงสัยว่า การที่เขาเอาเรื่องราวของตัวเองมาเผยแพร่ อาจเป็นการกดดันให้มหาวิทยาลัยมอบใบปริญญาให้เขาอีกด้วย

ที่มา: ‘I do not feel inferior’: PhD student in China works part-time as delivery driver to foot son’s medical bills while earning degree (SCMP)


กำลังโหลดความคิดเห็น