บ่อนกาสิโนมาเก๊า แดนสวรรค์ของคอพนันเสี่ยงโชค อาจกลายเป็นอดีตด้วยพิษโควิด-19 บวกกับนโยบายของผู้นำจีน ที่ต้องการให้เขตบริหารพิเศษแห่งนี้ลดการพึ่งพารายได้จากการพนัน
การโยกย้ายของซัปพลายเออร์บ่อนกาสิโนต่างชาติจากเขตบริหารพิเศษมาเก๊าไปอยู่ที่อื่นเป็นดัชนีชี้วัดระดับความซบเซาของบ่อนพนันมาเก๊าได้อย่างหนึ่ง
ความต้องการเครื่องเล่นพนันในมาเก๊าตกลง ทำให้บริษัท ไลต์แอนด์วันเดอร์ (Light & Wonder Inc.) ผู้จัดหาเครื่องเล่นพนัน เช่น สล็อตแมชชีน หรือโต๊ะไพ่บาคาร่าของอเมริกา กำลังย้ายทีมงานชาวต่างชาติไปเปิดสำนักงานแห่งใหม่ที่ฟิลิปปินส์ ซึ่งผงาดเป็นตลาดอันดับ 1 ของบริษัทรายนี้ไปแล้ว ส่วนบริษัทผู้ผลิตเครื่องเล่นพนันจากญี่ปุ่นอีกราย มีรายได้ตกลงราวร้อยละ 90 ก็กำลังโยกลูกจ้างร้อยละ 30 และสินค้าคงคลังกว่าครึ่งหนึ่งไปฟิลิปปินส์และสิงคโปร์เช่นกัน เนื่องจากธุรกิจกาสิโนที่ซบเซายืดเยื้อ ทำให้บ่อนในมาเก๊าพากันแขวนคำสั่งซื้ออุปกรณ์เครื่องเล่น จนกว่าจะได้ต่อใบอนุญาตประกอบธุรกิจจากทางการเสียก่อน
นายเจย์ ฉวิน ประธานสมาคมผู้ผลิตเครื่องเกมพนันของมาเก๊า ( Macau Gaming Equipment Manufacturers Association) ทราบมาว่า มีซัปพลายเออร์กาสิโนต่างชาติอย่างน้อย 4 ราย กำลังย้ายออกไป
นับเป็นเวลานานกว่า 1 เดือนแล้ว ที่ผู้ประกอบการบ่อนกาสิโนสูญเสียรายได้หลายล้านดอลลาร์สหรัฐ การเดินทางปลอดการกักตัว ซึ่งถูกยกเลิกทำให้ในเดือน ก.ค.มาเก๊ามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาแค่วันละ 300 คน และรายได้จากบ่อนพนันตกต่ำเป็นประวัติการณ์ เหลือ 49 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนั้น บ่อนในมาเก๊าทั้งหมดต้องปิดให้บริการนาน 2 สัปดาห์จากมาตรการล็อกดาวน์
นักท่องเที่ยวพากันหนีหาย เพราะกลัวติดแหง็กอยู่ในเมืองดังเช่นที่เกิดขึ้นกับเมืองเซี่ยงไฮ้ ซันย่า และเฉิงตู
พอมาถึงเดือน ส.ค. รายได้จากการพนันของมาเก๊าอยู่ที่ 271 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณร้อยละ 9 ของรายได้ก่อนหน้าโควิด-19 ระบาด
ขณะที่สิงคโปร์ มีรายได้จากบ่อนกาสิโนในไตรมาส 2 ของปี 2565 เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 70 จากระดับรายได้ก่อนหน้าโควิด-19 ส่วนฟิลิปปินส์และเกาหลีใต้มีรายได้ขยับขึ้นราวร้อยละ 7
อันที่จริงนั้น มาเก๊าถูกกดดันมาก่อนหน้าโควิด-19 ระบาดแล้ว จากนโยบายกวาดล้างการฟอกเงิน การทุจริตคอร์รัปชัน และการเคลื่อนย้ายเงินทุนออกนอกประเทศของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ซึ่งทำให้พวกนักพนันที่ชอบวางเดิมพันสูงถูกปราบปราม
การปรับปรุงระบบบ่อนกาสิโนก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้ประกอบธุรกิจต้องมองหาตลาดใหม่ เช่น การกำหนดเพดานเครื่องเล่นพนันในมาเก๊าให้มีได้ไม่เกิน 12,000 ชิ้น ซึ่งจะบังคับใช้ในปี 2566 จากที่มีอยู่แล้ว 17,000 ชิ้นในปี 2562 หรือการปรับปรุงมาตรฐานเครื่องเล่นพนันอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งซัปพลายเออร์ โดยเฉพาะที่เป็นรายย่อยไม่อยากเสียเงินออกแบบซอฟต์แวร์ใหม่
นอกจากนั้น การออกใบอนุญาตใหม่ยังผูกติดกับนโยบายมาเก๊าลดการพึ่งรายได้จากการพนันของรัฐบาลปักกิ่ง โดยผู้ประกอบการต้องให้คำมั่นว่าจะหันไปลงทุนในธุรกิจด้านอื่น ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการพนันด้วย เช่น การแพทย์แผนจีน หรือด้านเทคโนโลยี
ศูนย์กลางบ่อนกาสิโนมาเก๊าเคยเฟื่องฟูระดับโลกมานานกว่าหนึ่งทศวรรษ ด้วยรายได้ 36,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี มากกว่าแหล่งการพนันที่ลาสเวกัสถึง 6 เท่า แต่ตอนนี้จำต้องถอดมงกุฎให้ลาสเวกัสไป ซ้ำยังถูกแหล่งพนันน้องใหม่อย่างสิงคโปร์และฟิลิปปินส์แซงหน้า
นายแดเนียล เฉิง อดีตผู้บริหารบริษัทเกมพนันหลายแห่ง ซึ่งรวมทั้งบริษัท ฮาร์ด ร็อก อินเตอร์เนชั่นแนล (Hard Rock International) มองว่า มาเก๊าไม่สามารถคาดหวังที่จะกลับมาให้บริการตามปกติเช่นแต่ก่อนได้อีกแล้ว
“มาเก๊าของเดิมคือสิ่งที่มีอยู่แต่ในอดีตเท่านั้น” เขากล่าว
จาก "Casino suppliers quit zero-Covid Macau for Singapore, the Philippines: ‘Macau has already lost its shine’" ในเซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์