xs
xsm
sm
md
lg

New China Insights&:จีนกับเศรษฐกิจภาคกลางคืน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


บรรยากาศสีสันเศรษฐกิจกลางคืนย่านถนนคนเดินใจกลางกรุงปักกิ่ง ภาพเมื่อวันที่ 15 ก.ค.2022 (แฟ้มภาพ ซินหัว)
โดย ร่มฉัตร จันทรานุกูล นักวิชาการอิสระ


ในบทความนี้ผู้เขียนอยากจะมาบอกเล่าสู่กันฟังเกี่ยวกับเศรษฐกิจภาคกลางคืนของจีน ซึ่งจีนเองก็มีคำเรียกเฉพาะที่ว่า “夜经济” อ่านว่า เย่จิงจี้ (Ye Jingji : Night Economy) แปลตรงตัวก็หมายถึงเศรษฐกิจกลางคืน เศรษฐกิจภาคกลางคืนนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่เพราะนักเศรษฐศาสตร์จีนมีการพูดถึงมาระยะหนึ่งแล้ว และจากสังคมเศรษฐกิจที่ไม่หยุดพัฒนาทำให้เศรษฐกิจภาคกลางคืนนี้ดูจะมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ

ส่วนการขยายความของเศรษฐกิจภาคกลางคืนหมายถึง กิจกรรมทางเศรษฐกิจด้านการบริการที่เริ่มตั้งแต่เวลา 6 โมงเย็นไปจนถึงตี 2 เศรษฐกิจภาคกลางคืนขับเคลื่อนได้โดยความต้องการจับจ่ายใช้สอยของคนเมือง ทำให้ธุรกิจภาคบริการต่างๆ คึกคัก เงินหมุนเวียน โดยการใช้จ่ายในเวลากลางคืนประกอบไปด้วยการกินอาหารสังสรรค์ ร้องคาราโอเกะ การลงออเดอร์ซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านมือถือในเวลากลางคืน รวมไปถึงการบริการเรียกรถโดยสารในเวลากลางคืน การเรียกบริการขับรถแทน (เมาไม่ขับเรียกคนอื่นมาขับรถตนเองไปส่งที่บ้าน)

มีสถิติรายงานว่าผู้คนจับจ่ายซื้อของในเวลากลางคืนมากกว่าเวลากลางวันถึง 3 เท่า ที่ปักกิ่งเองช่วง 2 เดือนกว่าที่ผ่านมานี้ได้ออกแคมเปญกระตุ้นผู้อาศัยในปักกิ่งออกมาจับจ่ายใช้สอย มีการแจกอั่งเปาดิจิทัลให้ประชาชนเอาไปใช้จ่ายในร้านค้าต่างๆ โดยมีธีมที่ดึงดูดให้ประชาชนใช้จ่ายในเวลากลางคืน อย่างที่ปักกิ่งวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้ออกประชาสัมพันธ์สโลแกนกระตุ้นการใช้จ่าย “2022 เทศกาลใช้จ่ายในเมืองปักกิ่งยามราตรี” โดยได้กำหนดสถานที่ที่จัดกิจกรรมกระตุ้นการใช้จ่ายของประชาชนในเวลากลางคืนทั่วปักกิ่ง 20 กว่าแห่ง มีการตั้งร้านรวงข้างทางขายของกินของจิปาถะต่างๆ มีการร้องเพลงและเต้นรำกลางแจ้งสันทนาการให้ประชาชน เป็นต้น อย่างที่ถนนคนเดินใจกลางปักกิ่ง หวางฝู่จิ่ง ตอนกลางคืน ก็เปิดไฟสว่างไสว บริเวณตึกห้างร้านต่างๆ มีการประดับไฟสวยงาม มีกิจกรรมบนลานกว้างในเวลากลางคืน เพิ่มบรรยากาศความครึกครื้นยามราตรี

และกิจกรรมที่จะหาทำได้ในเวลากลางคืนของประชาชนไม่ใช่แค่เรื่องกินข้าวหรือร้องเพลงเท่านั้น แต่การเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์บางแห่งยังขยายเวลาเปิดไปหลังหนึ่งทุ่มอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติปักกิ่ง พิพิธภัณฑ์ศิลปะปักกิ่ง ในช่วงเปิดเทอมได้ขยายเวลาเปิดให้ประชาชนได้เข้าชมในช่วงเวลากลางคืน ซึ่งมีบรรยากาศต่างจากเวลากลางวัน ทำให้กิจกรรมเศรษฐกิจภาคกลางคืนมีสีสันมากยิ่งขึ้น

ชาวเมืองที่จังหวะการใช้ชีวิตที่เร็ว ทำงานหนักในเวลากลางวัน กว่าจะเลิกงานก็มืดค่ำ การออกไปสังสรรค์กับเพื่อนๆ หลังเลิกงานโดยเฉพาะเย็นวันศุกร์เป็นทางเลือกที่ดีเพื่อการผ่อนคลายและความบันเทิง อย่างเช่น ชีวิตชาวออฟฟิศในปักกิ่งส่วนใหญ่วันศุกร์จะเลิกงานเร็วกว่าปกติและไปนัดสังสรรค์กันตามสถานที่ท่องเที่ยวยามราตรี อย่างซานหลี่ถุน เพราะมีสถานที่กินดื่ม ร้องเพลง เต้น ครบครัน ส่วนรถไฟฟ้าหลายสายหลักของปักกิ่งที่ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ จะเปิดบริการดึกกว่าสายรอบนอกเมือง

ขณะนี้หลายเมืองของจีนเริ่มมาให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจภาคกลางคืนเพราะอย่างที่บอกไปการใช้จ่ายของผู้คน 60% คือหลัง 6 โมงเย็นเป็นต้นไป ดังนั้นการจะให้เศรษฐกิจหมุนเวียนได้ดีและยั่งยืนต้องให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจภาคกลางคืนด้วย คือการส่งเสริมให้เกิดอาชีพเสริม ประชาชนมีรายได้เสริม บางคนตอนกลางวันเป็นพนักงานบริษัท พอตกดึกก็เป็นคนขับรถในแพลตฟอร์มเรียกรถต่างๆ บางคนหลังเลิกงานแรกตอนเช้า ตอนเย็นก็ไปรับงานสองเป็นพนักงานส่งอาหาร เป็นต้น

ร้านฟิตเนส LEFIT 24 ชั่วโมง ที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่คนเมือง (ภาพจาก โซเชียลจีน เวยปั๋ว)
แต่สิ่งที่ผู้เขียนสังเกตชัดเจนอย่างหนึ่งว่า เศรษฐกิจภาคกลางคืนของจีนยังห่างไกลจากไทยมาก ในมุมของกิจกรรมสันทนาการ เช่น ผับ บาร์ ตลาดนัดตอนดึก สถานอาบอบนวด เป็นต้น เป็นเพราะว่าทางการจีนควบคุมอบายมุขที่ผิดกฎหมายทุกประเภทอย่างหนัก อย่างเช่นผับบาร์ในปักกิ่งที่เหลืออยู่ส่วนใหญ่เป็นร้านนั่งดื่ม ผับที่มีคนแออัดจำนวนมหาศาลปิดไปหลายแห่ง หรือยังมีการเปิดบ้างแต่ถูกควบคุมอย่างหนักเพราะเรื่องของการควบคุมการระบาดของโควิด-19

ในเมืองเซี่ยงไฮ้ เมืองที่มีบรรยากาศความคึกคักในเวลากลางคืนมากเป็นอันดับต้นๆ ของจีน มีร้านหนังสือหลายร้านที่เปิดให้บริการไปจนถึง 4 ทุ่ม และคนในเซี่ยงไฮ้จำนวนหนึ่งหลังเลิกงานและยังไม่อยากกลับบ้านก็ไปนั่งอ่านหนังสือจิบชา ผ่อนคลายในร้านหนังสือต่างๆ ชาวเมืองที่เข้าไปใช้บริการร้านหนังสือยามดึกต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ช่วงเวลากลางวันทำงานยุ่งและเคร่งเครียด ไม่มีโอกาสได้ใช้เวลาผ่อนคลายเป็นของตัวเอง การมาที่ร้านหนังสืออ่านหนังสือที่ตัวเองชอบไปเรื่อยๆ ทำให้จังหวะชีวิตช้าลงมาและได้มีเวลาให้ตัวเองมากขึ้น

ส่วนอีกหนึ่งกิจการที่ได้รับการตอบรับอย่างดีจากชาวเมืองไม่ว่าจะในปักกิ่งหรือเซี่ยงไฮ้ คือร้านฟิตเนสเปิด 24 ชั่วโมงชื่อว่า “Leke” ผู้เขียนเองก็เป็นสมาชิกอยู่เหมือนกัน ฟิตเนสแห่งนี้ใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เข้ามาบริหารและขายบัตรแก่สมาชิก การขายบัตรจะมีแบบรายสัปดาห์ รายเดือนและรายปี สมาชิกสามารถจะไปเล่นได้ในทุกสาขาทั่วประเทศ (สะดวกและคุ้มค่า) การเปิด-ปิดประตูใช้การสแกนคิวอาร์โค้ดของสมาชิก มีระบบกล้องวงจรปิดตรวจจับภายในร้านทุกซอกมุมตลอด ผู้เขียนมองว่าฟิตเนส 24 ชั่วโมงนี้ กลายเป็นทางเลือกที่ดีให้ชาวเมืองใหญ่ที่ทำงานเลิกดึก ผู้เขียนเองบางทีจะเลือกไปเวลา 5 ทุ่มถึงเที่ยงคืน เพื่อจะได้หลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่คนเยอะ ถึงแม้ว่าจะดึกขนาดนั้นแล้วก็พบว่ายังมีคนอยู่ไม่น้อยที่กำลังออกกำลังกายอยู่เช่นกัน

การท่องเที่ยวภาคกลางคืนของจีนอีกทางหนึ่งคือการเน้นการท่องเที่ยวแบบเชิงวัฒนธรรม อย่างเช่นในปีนี้ พระราชวังต้องห้ามในปักกิ่งก็เปิดขายบัตรเที่ยวเยี่ยมชมยามราตรี ที่จะเปิดไฟสว่างไสว แต่ตั๋วก็มีจำนวนจำกัดในแต่ละครั้งและจะถูกขายหมดอย่างรวดเร็ว ดังนั้นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในเวลากลางคืนก็มีความต้องการอยู่มากและมีโอกาสในการพัฒนาอีกเยอะ

หากเทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว การท่องเที่ยวภาคกลางคืนของจีนยังมีส่วนบกพร่องและยังต้องพัฒนาอีกมาก โดยเฉพาะการบริหารจัดการในรายละเอียด เมืองต่างๆ ต้องปรับตัวและบริหารให้ได้ดี ต้องมีนโยบายลูกที่ออกมาควบคุมและดูแลเฉพาะ การพัฒนาของเศรษฐกิจภาคกลางคืนในจีนไม่ใช่แต่เฉพาะในเมืองชั้นหนึ่งเท่านั้น แต่เมืองชั้นสองเป็นต้นไปก็มีศักยภาพในการเติบโตอย่างมาก อย่างเช่น ที่เกาะไหหลำ และเมืองหนานหนิงมีความยืดหยุ่นด้านนโยบายมากกว่า ประชาชนออกมาขายของทางเท้าได้ในเวลากลางคืน ความคึกคักของเมืองในยามดึกก็จะมีมาก กระตุ้นเศรษฐกิจภาคประชาชนชาวรากหญ้าได้เป็นอย่างดี

สรุปคือเศรษฐกิจภาคกลางคืนของจีนเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจภาคใหญ่ที่ไม่ควรมองข้าม ในขณะที่จีนเองก็เริ่มเห็นความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่เพียงแต่สามารถกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศให้มากขึ้น แถมยังทำให้ชีวิตประชาชนมีชีวิตชีวาและเพิ่มความสุขมากขึ้นเพราะทางเลือกที่มากขึ้นนั่นเอง


กำลังโหลดความคิดเห็น