xs
xsm
sm
md
lg

ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต สหรัฐฯ ส่งเรือรบแล่นผ่านช่องแคบไต้หวัน แค่เรือรบรุ่นเก่า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธนำวิถี “ยูเอสเอส แอนตีทัม” ชั้นติคอนเดอโรกา (Ticonderoga-class cruisers) แล่นผ่านช่องแคบไต้หวัน  - ภาพรอยเตอร์
หลังจากกรณีประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เยือนไทเป และถูกจีนตอบโต้ด้วยการซ้อมรบรอบเกาะไต้หวันผ่านมานานกว่า 20 วัน ในที่สุดเขี้ยวเล็บทางทหารของสหรัฐฯ ก็ปรากฏตัวขึ้นในช่องแคบแห่งความขัดแย้ง อย่างไรก็ตาม ในสายตาของกูรูจีนนั้นมองว่า เป็นแค่เขี้ยวเล็บรุ่นเก่า และไม่น่าจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โตอะไร 

เรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธนำวิถี “ยูเอสเอส แอนตีทัม” และ “ยูเอสเอส แชนเซลเลอร์สวิลล์” แล่นผ่านช่องแคบไต้หวันเมื่อวันอาทิตย์ (28 ส.ค.) ซึ่งกองเรือที่ 7 ของสหรัฐฯ แถลงว่า เป็นการแล่นผ่านเขตน่านน้ำสากลตามภารกิจปกติ อันแสดงให้เห็นถึงพันธกิจของสหรัฐฯ ในการทำให้ภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก มีเสรีภาพและเปิดกว้าง

“ทหารสหรัฐฯ ย่อมทำการบิน เดินเรือ และปฏิบัติการได้ในทุกแห่งหนที่กฎหมายระหว่างประเทศอนุญาต” กองเรือที่ 7 ระบุ

นายจอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ยืนยันกับสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นในวันเดียวกันว่า การแล่นผ่านช่องแคบไต้หวันของเรือรบสหรัฐฯ ไม่ขัดต่อนโยบายประเทศจีนเดียวของปักกิ่ง ที่รัฐบาลสหรัฐฯ ให้การยอมรับอย่างแน่นอน

ด้านกองบัญชาการยุทธภูมิตะวันออกของกองทัพปลดแอกประชาชนจีนแถลงว่า คอยติดตามดูเรือรบ 2 ลำอย่างใกล้ชิด โดยกองบัญชาการยังคงอยู่ในภาวะเฝ้าระวังและพร้อมสยบทุกการกระทำที่ยั่วยุ

เหล่าผู้เชี่ยวชาญแดนมังกรมองเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า ไม่น่าจะเป็นเรื่องราวใหญ่โตอะไร เพราะที่ผ่านมา กองทัพเรือสหรัฐฯ ก็เคยทำเช่นนี้มาหลายครั้งแล้ว ด้วยจุดประสงค์เพื่อทำให้ “เสรีภาพในการเดินเรือ” เกิดขึ้นเป็นจริงในช่องแคบไต้หวันและในทะเลจีนใต้ โดยตราบใดที่เรือของสหรัฐฯ ปฏิบัติตามกฎระเบียบของ “การผ่านโดยสุจริต” (innocent passage) ในอนุสัญญาว่าด้วยกฎหมายทางทะเลของสหประชาชาติ เช่น การปิดระบบอาวุธและเรดาร์ควบคุมการยิง มีการแล่นผ่านไปอย่างเงียบๆ ไม่กระทำการก่อกวน หรือเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของจีน กองทัพแดนมังกรก็จะทำเพียงแค่เฝ้าติดตามเท่านั้น ส่วนสหรัฐฯ เองก็คงไม่ต้องการให้เรือทั้ง 2 ลำ ซึ่งเป็นเรือลาดตระเวนชั้นติคอนเดอโรกา (Ticonderoga-class cruisers) ที่จัดว่าเป็นรุ่นเก่ามากของฝ่ายตนเองตกอยู่ในอันตรายเป็นแน่


เครื่องบินรบของกองทัพเรือ กองทัพอากาศภายใต้กองบัญชาการยุทธภูมิตะวันออกแห่งกองทัพปลดแอกประชาชนจีนทะยานขึ้นบินซ้อมรบรอบเกาะไต้หวันเมื่อวันที่ 4 ส.ค.2565 - ภาพซินหัว
นอกจากนั้น นายซ่ง จงผิง ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารระบุว่า ถ้าเกิดการสู้รบขึ้นจริง ทั้งเรือลาดตระเวน เรือพิฆาต หรือแม้กระทั่งเรือบรรทุกเครื่องบินของสหรัฐฯ ที่อยู่ในช่องแคบไต้หวัน ไม่รอดจากห่าขีปนาวุธแน่ เพราะอยู่ใกล้กับจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งมีฐานยิงขีปนาวุธเป็นดง

ที่ผ่านมานั้น สหรัฐฯ มักส่งเรือพิฆาตชั้นอาร์ลีห์ เบิร์ก (Arleigh Burke class destroyers) มาปฏิบัติภารกิจแล่นผ่านช่องแคบไต้หวัน เป็นเรือขนาดเล็กกว่าเรือลาดตระเวนชั้นติคอนเดอโรกา แต่คราวนี้นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่า ส่งเรือลาดตระเวนชั้นติคอนเดอโรกามา 2 ลำ ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่า สหรัฐฯ ตระหนักเป็นอย่างดีและกลัวเกรงขีดความสามารถของกองทัพจีนอยู่ไม่น้อย จึงต้องส่งเรือมาลาดตระเวนช่วยกัน


กระนั้นก็ตาม นายซ่ง ชี้ว่า จีนมีเรือพิฆาตไทป์ 055 (Type 055) ติดขีปนาวุธนำวิถีล่องหน ซึ่งล้ำสมัยกว่ามาก ดังนั้น ถึงแม้สหรัฐฯ ส่งเรือมาด้วยกัน 2 ลำ ก็ไม่สามารถข่มขวัญจีนได้ การส่งเรือแล่นผ่านน่านน้ำครั้งนี้จึงเป็นเพียงการสร้างภาพขึงขัง เพื่อให้รัฐบาลไต้หวันรู้สึกอุ่นใจก็เท่านั้นเอง เพราะรัฐบาลไต้หวัน ซึ่งฝักใฝ่การประกาศเอกราชจากจีน ฝากความหวังทั้งหมดทั้งมวลไว้กับพี่กัน ว่า จะช่วยปกป้องไต้หวันได้ หากถูกพญามังกรบุกเกาะสักวันใดวันหนึ่ง


ข้อมูลจากโกลบอลไทมส์/รอยเตอร์




กำลังโหลดความคิดเห็น