จีนเกิดฝนตกโครมลงมาอย่างกะทันหันในมณฑลชิงไห่ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และดินโคลนถล่ม
สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน อ้างรายงานของสำนักงานบริหารเหตุฉุกเฉินท้องถิ่นเมื่อวันพฤหัสฯ (18 ส.ค.) ว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 16 คน และยังคงสูญหายอีก 36 คน โดยพื้นที่เกิดเหตุอยู่ในอำเภอปกครองตนเองต้าถงหุยและถู (Datong Hui and Tu Autonomous County) ซึ่งมีภูมิประเทศเป็นภูเขาเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันครั้งนี้ทั้งสิ้น 6,245 คน จาก 1,517 ครัวเรือนใน 6 หมู่บ้าน
ฝนที่ตกกระหน่ำครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ทำให้แม่น้ำไหลเปลี่ยนทิศทาง ทางการท้องถิ่นต้องประกาศมาตรการรับมือฉุกเฉินเพื่อควบคุมภัยพิบัติในระดับ 2 จากทั้งหมด 4 ระดับ ซึ่งแบ่งตามสภาพความรุนแรง โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 2 พันคน จากกองกำลังตำรวจติดอาวุธประชาชนจีน เจ้าหน้าที่ค้นหากู้ภัยและบุคลากรทางการแพทย์ พร้อมยวดยานพาหนะกว่า 160 คันลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว
ขณะนี้จีนอยู่ในช่วงฤดูร้อน และกำลังเผชิญกับสภาพอากาศแบบสุดขั้ว ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ โดยบางภูมิภาคมีฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลัน แต่บางภูมิภาคกลับมีสภาพอากาศร้อนจัดและแห้งแล้งเป็นประวัติการณ์ นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า สภาพอากาศรุนแรงแบบสุดขั้วจะเกิดในทั่วโลกบ่อยขึ้น อันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ หรือ ภาวะโลกร้อน
อุทกภัยรุนแรงในภาคใต้ของจีนเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนกว่าครึ่งล้านคน ต้องย้ายออกจากที่อยู่อาศัย และก่อความเสียหายราว 250 ล้านดอลลาร์
ส่วนประชาชนอีกหลายล้านคนในภาคตะวันตกเฉียงใต้ขณะนี้กำลังประสบกับปัญหาไฟฟ้าดับเป็นบางครั้ง เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ทำให้มีการใช้เครื่องปรับอากาศและพัดลมเกินกำลังการจ่ายกระแสไฟฟ้า กระทั่งโรงงานหลายแห่งต้องหยุดพักการทำงาน โดยสำนักอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติระบุว่า จีนกำลังเผชิญกับสภาพอากาศร้อนจัดต่อเนื่องยาวนานที่สุดในรอบ 60 ปี
ข้อมูลจากสื่อจีน/สื่อต่างประเทศ
