โกลบอลไทมส์ - มณฑลไห่หนาน ซึ่งกำลังพยายามควบคุมโรคโควิด-19 แพร่ระบาด สั่งลงโทษหนักเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ 6 คนในท้องถิ่น
สำนักตรวจสอบวินัยประจำมณฑลไห่หนาน หรือไหหลำ ทางภาคใต้ของจีนประกาศเมื่อวันอาทิตย์ (14 ส.ค.) ว่า ในขณะที่ทั่วทุกภาคส่วนของมณฑลกำลังทุ่มเทต่อสู้กับโควิด-19 แต่กลับมีเจ้าหน้าที่ของรัฐบางคนนิ่งเฉย เกียจคร้าน และไม่รับผิดชอบต่อหน้าที่
หนึ่งในนั้นคือ หลินฮุย รองหัวหน้าคณะกรรมาธิการด้านสุขภาพประจำเขตจื่อหยาง ในเมืองซันย่า ถูกสำนักตรวจสอบวินัยดำเนินการสอบสวน ฐานละเลยการปฏิบัติหน้าที่ในการควบคุมดูแลพนักงานให้บริการโทรศัพท์สายด่วน เพื่อรับการแจ้งเรื่องขอความช่วยเหลือที่เกี่ยวกับโควิด-19 จนทำให้มีพนักงานโทรศัพท์คนหนึ่งจงใจใช้สายด่วนสำหรับให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตไปในเรื่องอื่นนาน 90 นาที ซึ่งพนักงานผู้นี้ถูกไล่ออกไปแล้ว
อีกกรณีหนึ่ง เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น 2 คนในเมืองตันโจว ถูกสอบสวนและลงโทษด้วยการคุมขังนาน 5 วัน เพราะตั้งวงเล่นไพ่และการพนันในระหว่างการทำงาน แถมยังมีเรื่องวิวาทชกต่อยกับชาวบ้าน
ส่วนเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นอีก 3 คน ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบด้านกิจการชุมชนประจำเขตฉยงซาน เมืองไหโขว่ ถูกลงโทษ เพราะทีมงานภายใต้การรับผิดชอบมาทำงานสาย แต่กลับบ้านเร็ว ทั้งที่อยู่ในช่วงสถานการณ์ฉุกเฉินเกี่ยวกับโควิด-19 ก็ตาม
ในการประกาศของสำนักตรวจสอบวินัยของมณฑลไห่หนาน ยังย้ำเตือนให้เจ้าหน้าที่ทุกระดับพึงปฏิบัติหน้าที่ในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วยความรับผิดชอบอย่างเต็มกำลัง โดยทางการจะเดินเครื่องสอบสวนและจัดการกับปัญหาการละเลยหน้าที่อย่างเต็มกำลังด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ มณฑลไห่หนานเกิดการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของโรคโควิด-19 เมื่อราว 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยนับตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. พบผู้ติดเชื้อในมณฑลแล้วอย่างน้อย 7,736 คน มีเมืองซันย่าเป็นพื้นที่การแพร่ระบาดหนักที่สุด อย่างไรก็ตาม หน่วยงานสาธารณสุขของเมืองแถลงเมื่อวันอาทิตย์ (14 ส.ค.) ว่า สัดส่วนการตรวจพบผู้ติดเชื้อในพื้นที่นอกการควบคุมได้ลดลงจากร้อยละ 90 เหลือร้อยละ 2.9 โดยเมืองซันย่าพยายามตัดวงจรการแพร่ระบาด ด้วยการวิธีการต่างๆ เช่น การกักตัว และการปูพรมตรวจหาเชื้อด้วยวิธีทดสอบกรดนิวคลิอิก นอกจากนั้น ได้ดำเนินการส่งนักท่องเที่ยว ที่ติดค้างในเมืองเกือบ 1 พันคน กลับบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้วระหว่างวันที่ 9-13 ส.ค. ที่ผ่านมา