สถาบันวิจัย Beike (BRI) ซึ่งเป็นหน่วยงานมันสมองของจีนเตือนความเสี่ยงของตลาดอสังหาริมทรัพย์ หลังอัตราห้องพักว่างในคอนโดมิเนียมมีจำนวนสูง
รายงานระบุว่า จำนวนห้องพักว่างสะท้อนว่ามีอุปทานส่วนเกิน เมื่อความคาดหวังเกี่ยวกับตลาดที่อยู่อาศัยเริ่มแย่ลง ห้องพักว่างจำนวนมากจะถูกนำเข้าสู่ตลาด และอาจสร้างแรงกดดันทำให้ราคาบ้านลดลง
อัตราห้องพักว่างในจีนแผ่นดินใหญ่โดยเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 12.1 (ราว 50 ล้านห้อง) เทียบกับร้อยละ 11.1 ในสหรัฐอเมริกา และร้อยละ 9.8 ในออสเตรเลีย และสหราชอาณาจักรมากซึ่งมีบ้านว่างเพียงร้อยละ 0.9 เท่านั้น
ด้าน “Capital Economics” บริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาในลอนดอนประมาณการว่า ปีที่แล้วจีนแผ่นดินใหญ่มีอสังหาริมทรัพย์ที่ขายไม่ออกประมาณ 30 ล้านแห่ง ในขณะที่อีกประมาณ 100 ล้านแห่งน่าจะถูกซื้อไปโดยไม่มีผู้เข้าพักอาศัย
ในปีที่ผ่านมา บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ 21 รายผิดนัดชำระหนี้ โดยเฉพาะกลุ่ม China Evergrande Group ในขณะที่ผู้ซื้อบ้านหลายพันคนประกาศคว่ำบาตรจำนองเมื่อเดือนที่แล้ว
ความเชื่อมั่นในภาคอสังหาริมทรัพย์ลดลงเนื่องจากรัฐบาลกลางยังไม่มีมาตรการช่วยเหลือที่ชัดเจน แม้ว่าจะมีคำสัญญาอย่างต่อเนื่องที่จะทำให้ตลาดที่อยู่อาศัยมีเสถียรภาพ
S&P Global Ratings คาดว่ายอดขายอสังหาริมทรัพย์ในจีนจะลดลงมากถึงหนึ่งในสามจากปีที่แล้ว มาอยู่ที่ระหว่าง 12 ล้านล้านถึง 13 ล้านล้านหยวนในปี 2565 ในขณะที่ราคาบ้านโดยเฉลี่ยอาจลดลงร้อยละ 7
ที่มา เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์