วันอาทิตย์ (7 ส.ค.) เรือรบจีนและไต้หวันเคลื่อนไหวกดดันกันในวันสุดท้ายของการซ้อมรบด้วยกระสุนจริง 4 วันของกองทัพจีน หลัง “แนนซี เพโลซี” ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เดินทางเยือนไต้หวัน
กระทรวงกลาโหมของไต้หวันเปิดเผยว่า เครื่องบินขับไล่ไต้หวันขึ้นบินเตือนเครื่องบินจีน 14 ลำที่ข้ามเส้นมัธยฐาน นอกจากนี้ ยังตรวจพบเรือจีน 14 ลำ กำลังดำเนินกิจกรรมรอบช่องแคบไต้หวัน ขณะที่กองกำลังของไต้หวันยิงพลุเพื่อเตือนไม่ให้โดรนบินอยู่เหนือเกาะจินเหมิน และเครื่องบินที่ไม่ปรากฏชื่อบินอยู่เหนือเกาะมัตสึ
เรือรบจีน และไต้หวันประมาณ 10 ลำแล่นเข้ามาใกล้ช่องแคบไต้หวัน โดยเรือจีนบางลำข้ามเส้นมัธยฐาน ซึ่งเป็นเส้นกันชนที่ไม่เป็นทางการซึ่งแยกทั้งสองฝ่ายออกจากกัน
กระทรวงกลาโหมไต้หวันเปิดเผยว่า จีนปล่อยเรือ เครื่องบิน และโดรนจำลองการโจมตีเกาะไต้หวัน ในขณะที่ไต้หวันได้ส่งเครื่องบินและเรือไปตอบโต้ "อย่างเหมาะสม" โดยมีขีปนาวุธต่อต้านเรือรบบนฝั่งและขีปนาวุธพื้นผิวสู่อากาศในโหมดเตรียมพร้อม
รายงานระบุว่า ทั้งสองฝ่ายต่างแสดงความอดกลั้น โดยฝ่ายหนึ่งพยายามจะข้ามเส้นมัธยฐาน ขณะที่อีกฝ่ายพยายามขวางทางและบังคับให้พวกเขาอยู่ในตำแหน่งที่เสียเปรียบมากกว่า
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การฝึกซ้อมของจีนมีศูนย์กลาง 6 แห่งรอบไต้หวันเริ่มขึ้นในวันพฤหัสบดี (4 ส.ค.) ไปจนถึงเที่ยงวันของวันอาทิตย์ (7 ส.ค.)
กองทัพของจีนกล่าวเมื่อวันเสาร์ (6 ส.ค.) ว่า การซ้อมรบร่วมทางทะเลและทางอากาศมุ่งเน้นไปที่ความสามารถในการโจมตีทางบกและการโจมตีทางทะเล
หนังสือพิมพ์ People's Daily กระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีนระบุว่า จีนตอบสนองต่อการเยือนของเพโลซี โดยใช้ "มาตรการที่มีประสิทธิภาพซึ่งแสดงให้เห็นอย่างเต็มที่ว่าจีนมีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่และสามารถปกป้องความสามัคคีของชาติและปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน"
ด้านโฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า “กิจกรรมเหล่านี้เป็นการยกระดับความพยายามของจีนในการเปลี่ยนแปลงสถานะที่เป็นอยู่ เป็นการยั่วยุ ขาดความรับผิดชอบ และเพิ่มความเสี่ยงต่อความผิดพลาด”
ที่มา กลุ่มสื่อต่างประเทศ