กลุ่มสื่อต่างประเทศ - ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ ประกาศไม่มีวันทอดทิ้งไต้หวัน ย้ำเดินทางมาเกาะมังกรน้อยด้วยเรื่องของมิตรภาพล้วนๆ แต่จีนทำให้เป็นเรื่องใหญ่โตไปเอง และหวังว่าจีนจะไม่ขัดขวางมิตรภาพระหว่างสหรัฐฯ กับไต้หวัน ด้านผู้นำไต้หวันอ้างยินดีเปิดเจรจากับจีน
หลังจากเดินทางถึงกรุงไทเปเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ท่ามกลางเสียงคัดค้านแข็งกร้าวจากจีน ในวันรุ่งขึ้น (3 ส.ค.) นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ก็ได้ไปเยือนรัฐสภาของไต้หวัน จากนั้นเดินทางไปพบหารือครั้งประวัติศาสตร์กับประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน ของไต้หวัน
บุคคลทั้งสองได้แถลงข่าวร่วมกันที่ทำเนียบประธานาธิบดี โดยนางเพโลซี ระบุว่า การมาเยือนพร้อมคณะผู้แทนรัฐสภาสหรัฐฯ ครั้งนี้ เพื่อเป็นการแสดงมิตรภาพและการสนับสนุนของสหรัฐฯ ที่มีต่อไต้หวัน หลังจากสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ เคยมาเยือนไต้หวันแล้วหลายครั้ง นางเพโลซี แสดงความหวังว่า จีนจะเข้าใจการมาเยือนครั้งนี้ และคงไม่ขัดขวางการที่คนเราจะเดินทางมาไต้หวัน หรือขัดขวางมิตรภาพระหว่างสหรัฐฯ กับไต้หวันแต่อย่างใด
เมื่อผู้สื่อข่าวถามเรื่องที่จีนประกาศว่า การเยือนไต้หวันของนางเพโลซี จะได้รับผลตามมา โดยจีนจะเริ่มการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงใกล้เกาะมังกรน้อยในวันพฤหัสฯ (4 ส.ค.) นั้น นางเพโลซีตอบอย่างไม่ยี่หระว่า สหรัฐฯ มีสัญญาผูกพันตามกฎหมาย ที่รัฐสภาสหรัฐฯ ลงมติเห็นชอบเมื่อ 43 ปีก่อนว่า จะปกป้องรักษาความมั่นคงของไต้หวัน ซึ่งเป็นเรื่องของการมีค่านิยมในเรื่องประชาธิปไตยและเสรีภาพร่วมกัน แต่ประธานาธิบดีจีนมองว่า เป็นความไม่มั่นคงได้อย่างไรนั้น เรื่องนี้เธอไม่ทราบ และจีนกำลังทำให้การมาเยือนครั้งนี้เป็นเรื่องเอะอะใหญ่โตไปเอง
นอกจากนั้น ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ยังระบุด้วยว่า วันนี้โลกกำลังเผชิญกับทางเลือกระหว่างประชาธิปไตยกับเผด็จการ สหรัฐฯ มีปณิธานมุ่งมั่นที่จะปกป้องรักษาประชาธิปไตย ในขณะที่ไต้หวันและทั่วโลกยังคงอยู่ภายใต้กฎเหล็ก พร้อมกับให้คำมั่นแก่ผู้นำไต้หวันว่า สหรัฐฯ มีความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับไต้หวันอย่างที่สุดและจะไม่ทอดทิ้งไต้หวันอย่างเด็ดขาด โดยสหรัฐฯ ต้องการให้ไต้หวันมีเสรีภาพและความมั่นคงตลอดไป
ด้านประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน สาบานว่า จะไม่ยอมจำนนให้การข่มขู่ทางทหารจากจีน และจะทำทุกวิถีทางเพื่อธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพของไต้หวัน ผู้นำเกาะมังกรน้อยยังระบุด้วยว่า การรุกรานยูเครนของรัสเซียทำให้ความมั่นคงในบริเวณช่องแคบไต้หวันกำลังเป็นประเด็นที่โลกกำลังจับตามอง และการซ้อมรบเป็นเรื่องที่ไม่มีความจำเป็น โดยไต้หวันพร้อมเปิดการเจรจาอย่างสร้างสรรค์ด้วยเสมอ
ด้านรัฐบาลปักกิ่งนอกจากประกาศการซ้อมรบใกล้ไต้หวันแล้ว ยังทยอยดำเนินมาตรการตอบโต้การมาเยือนไต้หวันของนางเพโลซี เป็นลำดับ โดยกระทรวงต่างประเทศของจีนมีการเรียกตัวนายนิโคลัส เบิร์นส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงปักกิ่ง เพื่อยื่นหนังสือประท้วงอย่างรุนแรง นอกจากนั้น สำหรับมาตรการตอบโต้ทางเศรษฐกิจ จีนได้ระงับการนำเข้าสินค้าหลายรายการจากไต้หวัน รวมทั้งผลไม้ประเภทส้ม และปลาทูแช่แข็ง รวมทั้งระงับการส่งออกทรายไปยังไต้หวัน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค.2565 เป็นต้นไป