xs
xsm
sm
md
lg

กองทัพมะกันค้าน "เปโลซี" ไปเยือนไต้หวัน ด้านผู้เฒ่า "คิสซินเจอร์" เตือนไบเดน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กับนางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ - ภาพเอพี
ทริปเยือนเกาะมังกรน้อยของประธานสภาผู้แทนราษฎสหรัฐฯ ส่อเค้าล่มอีกหน ไบเดนบอกกองทัพไม่เห็นด้วย ด้านอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศคิสซินเจอร์ เตือนไบเดนเพลาๆ การยั่วยุจีน  นักวิเคราะห์ชี้ขืนไม่เชื่อฟังก็จะรู้ว่านรกเป็นยังไง

ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ระบุเมื่อวันพุธ (20 ก.ค.) ว่า นายทหารในกองทัพสหรัฐฯ เชื่อว่า ไม่ใช่ความคิดที่ดีที่นางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จะไปเยือนไต้หวันในตอนนี้

ไบเดนแสดงความเห็นระหว่างตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าว หลังจากกระทรวงต่างประเทศของจีนประกาศเมื่อหนึ่งวันก่อนว่า ถ้านางเปโลซี จะไปเยือนไต้หวันในเดือนหน้าจริงอย่างที่เป็นข่าว จีนก็จะดำเนินมาตรการตอบโต้อย่างสาสม

“ผมคิดว่า ทางกองทัพคิดว่ามันไม่ใช่ความคิดที่ดีในตอนนี้” ไบเดนตอบคำถามนักข่าว

“แต่ผมไม่ทราบว่าด้วยสภาพการณ์อะไร”

อย่างไรก็ตาม ไบเดนมิได้พูดชัดเจนว่า นางเปโลซีจะไปไต้หวันหรือไม่ นอกจากนั้น ผู้นำสหรัฐฯ ยังแสดงความคาดหวังด้วยว่า ตนจะได้มีโอกาสพูดคุยกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนในอีก 10 วันข้างหน้า

ทั้งนี้ นางเปโลซีเล็งไปเยือนไทเปหนหนึ่งแล้วเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา เป็นข่าวฮือฮาเขย่าความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนให้เลวร้ายไปกันใหญ่ แต่ถูกโรคโควิด-19 ขัดจังหวะ เปโลซีติดเชื้อเลยไม่ได้ไป ส่วนแผนการล่าสุดเป็นการเปิดเผยของแหล่งข่าว 2 ราย หากเกิดขึ้นจริงก็จะนับเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ คนแรก ที่ไปเยือนดินแดนเพื่อนซี้ในรอบ 25 ปี ถัดจากนายนิวต์ กิงริช ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ในเวลานั้น

ข่าวแผนการเยือนล่าสุดมีขึ้น หลังจากเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมาเพิ่งเกิดเหตุการณ์เครื่องบินขับไล่ ซู-30 (Su-30) ของจีน สกัดกั้นเครื่องบินลำเลียงซี-130 (C-130) ของสหรัฐฯ เหนือทะเลจีนใต้ไปหยกๆ ซึ่งเพนตากอนระบุว่า เครื่องบินฝ่ายจีนกระทำการที่ไม่ปลอดภัยและไม่ใช่มืออาชีพ

นายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน ตอบโต้ข่าวนางเปโลซีเมื่อวันอังคาร (19 ก.ค.) ว่า จะเป็นการละเมิดนโยบาย “จีนเดียว” อย่างร้ายแรง รวมทั้งเงื่อนไขข้อกำหนดต่างๆ ในแถลงการณ์ร่วม 3 ฉบับระหว่างจีนกับสหรัฐฯ นอกจากนั้น ยังเป็นการทำลายอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของจีนอีกด้วย

ในวันเดียวกับที่โฆษกจีนแถลง ด้านนายเฮนรี คิสซินเจอร์ รัฐมนตรีต่างประเทศในสมัยรัฐบาลประธานาธิบดี ริชาร์ด นิกสัน ได้ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า ภูมิศาสตร์การเมืองโลกในทุกวันนี้ต้องใช้ “ความยืดหยุ่นแบบนิกสัน” (Nixonian flexibility) เข้าแก้ไขวิกฤตระหว่างสหรัฐฯ กับจีน เช่นเดียวกับวิกฤตระหว่างรัสเซียกับยุโรป คิสซินเจอร์เตือนไบเดนว่า ควรระมัดระวังไม่ปล่อยให้การเมืองในประเทศเข้ามาแทรกแซง จนบดบังความเข้าใจที่สำคัญประการหนึ่งเกี่ยวกับจีน ซึ่งเป็นชาติที่อึดและไม่เปลี่ยนแปลงอะไรง่ายๆ การป้องกันไม่ให้จีนหรือชาติใดเป็นเจ้าโลกเป็นสิ่งสำคัญก็จริง แต่ไม่ควรทำด้วยสิ่งใดก็ตามที่จะทำให้สหรัฐฯ ต้องเผชิญหน้ากับจีนอย่างไม่มีวันสิ้นสุด

นายเฮนรี คิสซินเจอร์ วัย 99 ปี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ในสมัยรัฐบาลประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน - ภาพรอยเตอร์
คิสซินเจอร์เคยให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ด้วยว่า การเป็นปรปักษ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ที่นับวันเพิ่มขึ้น ทำให้โลกเสี่ยงเกิดหายนะร้ายแรงพอๆ กับสงครามโลกครั้งที่ 1

คิสซินเจอร์วัย 99 ปี มีบทบาทสำคัญในการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1970 (พ.ศ.2513-2522) โดยนิกสัน เคยหาเสียงเลือกตั้งโจมตีคอมมิวนิสต์อย่างดุเดือด แต่แล้วก็สร้างความประหลาดแก่ผู้สนับสนุน เมื่อเขาตัดสินไปเยือนจีนในปี 2515 และจับมือกับประธานเหมาเจ๋อตง กลายเป็นจุดเปลี่ยนครั้งประวัติศาสตร์สำหรับจีนกับสหรัฐฯ

โกลบอลไทมส์รายงานมุมมองของนักวิเคราะห์จีน ซึ่งระบุว่า ความคำเตือนของคิสซินเจอร์เป็นความเห็นของคนที่มองสถานการณ์ออก รัฐบาลไบเดน โหมยั่วยุจีน ก็เพื่อเรียกคะแนนเสียงให้พรรคเดโมแครต ขณะใกล้การเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภากลางเทอม และคะแนนนิยมในตัวไบเดนกำลังดิ่งเหว โดยนายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีนก็เคยเตือนนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ว่า แถลงการณ์ร่วม 3 ฉบับระหว่างจีนกับสหรัฐฯ เป็น “ราวกันอันตราย” ให้กับความสัมพันธ์ของชาติทั้งสอง นักวิเคราะห์จีนจึงคาดการณ์กันว่า ถ้ารัฐบาลไบเดนยังไม่เลิกยั่วยุจีน ก็จะได้รับผลตามมาอย่างชนิดสาหัสสากรรจ์แน่ๆ 


กำลังโหลดความคิดเห็น