xs
xsm
sm
md
lg

โครงการริเริ่ม "เบลต์แอนด์โรด" ของจีนถูกชาติจี-7 ท้าทาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


(ภาพจากซ้ายไปขวา) ผู้นำชาติ G7 : นายกรัฐมนตรีมาริโอ ดรากี ของอิตาลี นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ของแคนาดา ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส นายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมนี ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ นายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น และนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ของอังกฤษ ระหว่างซัมมิตที่เยอรมนีวันที่ 26 มิ.ย.2565 - ภาพรอยเตอร์
กลุ่มสื่อต่างประเทศ - “เบลต์แอนด์โรด” (Belt and Road Initiative) โครงการริเริ่มสร้างเส้นทางสายไหมยุคใหม่ของจีน เจอโครงการคู่แข่งที่น่ากลัว ซึ่งกลุ่มชาติอุตสาหกรรมชั้นนำทั้ง 7 (G-7) จัดมาให้ชาติกำลังพัฒนาได้ตัดสินใจเลือกว่าจะใช้บริการของใครในการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศของตน

ที่ประชุมสุดยอด G-7 ที่เยอรมนีเมื่อวันอาทิตย์ (26 มิ.ย.) ได้ประกาศ โครงการ “ความร่วมมือเพื่อโครงสร้างพื้นฐานและการลงทุนทั่วโลก” (Partnership for Global Infrastructure and Investment : PGII) โดยมีแผนระดมเงินจำนวน 6 แสนล้านดอลลาร์ จากชาติสมาชิกภายในอีก 5 ปีข้างหน้า เพื่อผลักดันโครงการซึ่งมีชื่อเดิมว่า โครงการ “สร้างโลกให้กลับมาดีกว่าเดิม” (Build Back Better World : B3W)  และเปิดตัวระหว่างการประชุมสุดยอด G-7 ที่อังกฤษเมื่อหนึ่งปีก่อน

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ประกาศว่า สหรัฐฯ จะจัดหาเงินจำนวน 2 แสนล้านดอลลาร์เข้าโครงการภายในปี 2570 ซึ่งเป็นเงินจากรัฐบาลกลางและจากการลงทุนภาคเอกชน เงินของสหรัฐฯ นี้เป็นการสมทบกับที่สหภาพยุโรป หรืออียู ได้ประกาศจัดสรรเงินเข้าโครงการไปแล้วก่อนหน้า จำนวน 3 แสนล้านยูโร นอกจากนี้ ชาติสมาชิกรายอื่นๆ จะช่วยกันบริจาคจนครบจำนวนตามที่ตั้งเป้าหมายไว้

ไบเดน ระบุว่า โครงการริเริ่มนี้ไม่ใช่การให้ความช่วยเหลือ หรือการบริจาค แต่เป็นการลงทุนที่จะให้ผลตอบแทนแก่ทุกคน ผู้นำสหรัฐฯ ไม่เอ่ยคำว่า “จีน” ออกมาตรงๆ แต่ประกาศว่า เมื่อชาติประชาธิปไตยทำทุกอย่างที่เราสามารถมอบให้ได้ ชาติประชาธิปไตยก็ย่อมมีชัยเหนือเผด็จการ


ฟังไบเดนพูดอย่างนี้แล้ว คู่แข่งในการขยายอิทธิพลทั่วโลกจะเป็นใครไปได้อีกเล่า

ด้านนางอัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นฝ่ายบริหารของอียู กล่าวว่า จุดประสงค์ของโครงการนี้เพื่อสร้างแรงกระตุ้นการลงทุนที่มีพลังในเชิงบวกแก่โลก เพื่อแสดงให้เห็นว่า ชาติกำลังพัฒนามีทางเลือก

ทั้งนี้ โครงการริเริ่ม “เบลต์แอนด์โรด” ช่วยให้จีนมีโอกาสสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับชาติกำลังพัฒนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาติในเอเชีย และแอฟริกา ด้วยการให้เงินสำหรับโครงการขนาดใหญ่ เช่น โครงการก่อสร้างถนน ทางรถไฟ และท่าเรือ แต่เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯ มักอ้างว่า ชาติที่ร่วมทำธุรกิจกับจีนมักจบลงด้วยการเป็นหนี้สิน


เกือบ 10 ปี ที่ผ่านมา โครงการก่อสร้างของจีนมักเน้นในโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพ (hard infrastructure projects) แต่โครงการริเริ่มของ G7 เป็นการลงทุนพัฒนาใน 4 ภาคหลัก ได้แก่ พลังงานสะอาด ระบบสาธารณสุข ความเท่าเทียมทางเพศ และเทคโนโลยีโทรคมนาคมข้อมูลข่าวสาร เช่น โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในแองโกลา โครงการสร้างโรงงานผลิตวัคซีนในเซเนกัล โครงการสร้างสายเคเบิลโทรคมนาคมใต้ทะเลของบริษัทสหรัฐฯ เชื่อมสิงคโปร์กับฝรั่งเศส ผ่านอียิปต์และคาบสมุทรโซมาเลีย เพื่อส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และโครงการสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาดเล็กในโรมาเนียเป็นต้น



กำลังโหลดความคิดเห็น