โดย ร่มฉัตร จันทรานุกูล นักวิชาการอิสระ
ข่าวสังคมดังในประเทศจีนเดือน มิ.ย.นี้ก็หนีไม่พ้นเหตุการณ์ที่สร้างความหวาดกลัว และรู้สึกไม่ปลอดภัยแก่ประชาชนโดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิง ซึ่งขณะนี้ชาวจีนยังติดตามเรื่องราวความคืบหน้าและการสอบสวนของตำรวจอย่างใกล้ชิด เหตุการณ์นี้เป็นข่าวร้อนติดต่อกันมาถึงปัจจุบัน เพราะชาวเน็ตก็ช่วยขุดประวัติกลุ่มผู้ที่กระทำผิดและเบื้องหลังของกลุ่มคนพวกนี้เหมือนจะมีคนมีอิทธิพลช่วยเหลืออยู่เลยยิ่งเป็นที่สนใจของประชาชนอย่างต่อเนื่อง
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่เมืองถังซาน เมืองสำคัญหนึ่งของมณฑลเหอเป่ย เหตุการณ์ที่ว่าคือกลุ่มชายฉกรรจ์ 9 คนได้ไปรุมกระทืบผู้หญิงที่ร้านอาหารปิ้งย่างยามดึก กล้องวงจรปิดที่ร้านอาหารทั้งในและนอกร้านจับภาพเหตุการณ์ไว้ได้ทั้งหมด 4 นาทีกว่าอย่างชัดเจน เหตุการณ์รุมทำร้ายนี้เริ่มต้นจากชายผู้ก่อเหตุได้เดินเข้าไปในร้านอาหารพูดคุยกับพนักงานและขณะที่เขากำลังเดินกลับไปยังโต๊ะข้างนอกร้านที่พรรคพวกของเขานั่งกินอาหารอยู่ ชายผู้ก่อเหตุนี้ก็ได้เอื้อมมือไปลูบหลังผู้หญิงที่นั่งกินข้าวอยู่โดยทั้งโต๊ะเป็นผู้หญิงทั้งหมด ผู้หญิงที่ถูกลูบหลังได้ตอบโต้ชายแปลกหน้าที่มาแตะเนื้อต้องตัวอย่างรุนแรง และชายผู้นี้ได้ตบผู้หญิงทันทีอย่างรุนแรงเหตุเพราะโดนด่าและถูกขัดขืน ฝ่ายหญิงได้คว้าขวดเบียร์ตีไปที่ศีรษะชายก่อเหตุเพื่อต่อสู้ และเพื่อนในกลุ่มผู้หญิงก็ถือขวดเบียร์ตีที่ศีรษะผู้ชายที่ลวนลามเพื่อช่วยเพื่อน แต่เหตุการณ์ที่ตามมายิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น
เมื่อเสียงทะเลาะวิวาทดังลั่นกันในร้าน พรรคพวกของชายก่อเหตุที่นั่งกินอาหารกันอยู่โต๊ะนอกร้านก็กรูกันเข้ามารุมทำร้ายกลุ่มผู้หญิงคู่กรณีในร้าน ยังไม่พอกลุ่มผู้ชายคนนี้ได้จิกหัวลากผู้หญิงที่ขัดขืนการลวนลามออกไปที่นอกร้าน รุมตบตีและกระทืบ ส่วนลูกค้าที่นั่งกินอยู่ในร้านก็มีอยู่ไม่น้อยที่เห็นเหตุการณ์แต่ไม่มีใครกล้าที่จะเข้าไปช่วย มีแต่กลุ่มเพื่อนผู้หญิงในโต๊ะที่มาด้วยกันที่ลุกขึ้นต่อสู้ แรงก็สู้กับกลุ่มชายฉกรรจ์พวกนี้ไม่ได้ หญิงที่เป็นเหยื่อถูกลวนลามเจ็บปางตายนอกจากถูกลากไปรุมทำร้ายนอกร้านแล้ว ยังถูกลากตัวเข้าไปในซอยข้างๆ ร้านอาหารและรุมทำร้ายเพิ่มเติมอีก ไม่นานกลุ่มชายฉกรรจ์พวกนี้ก็รีบหนีและหายตัวไปอย่างรวดเร็ว ในช่วงที่เกิดเหตุมีคนที่เห็นเหตุการณ์ได้โทร.แจ้งตำรวจ แต่ตำรวจมาถึงหลังจากกลุ่มชายฉกรรจ์พวกนี้หนีไปหมดแล้ว
เหตุการณ์น่าหดหู่และน่าหวาดกลัวนี้เกิดในคืนวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพราะว่ากล้องของร้านอาหารทั้งในและนอกร้านเก็บภาพหลักฐานทั้งหมดเอาไว้ได้อย่างชัดเจน และคลิปก็ถูกปล่อยออกมาในโซเชียลอย่างรวดเร็ว ไม่ใช่แค่คลิปเท่านั้นที่ถูกปล่อยออกมา รูปภาพที่หญิงคนที่ถูกรุมทำร้ายปางตายก็ถูกปล่อยออกมาด้วย เป็นรูปที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยในโรงพยาบาลสภาพเจ็บหนักทั้งร่างกาย บริเวณทั้งศีรษะเข้าเฝือก หน้าบวม เลือดเต็มตัว และในเหตุการณ์นี้มีผู้หญิง 4 คนบาดเจ็บและ 2 คนที่ต้องแอดมิดเข้าโรงพยาบาล หญิงที่เจ็บหนักสุดเข้าห้อง ICU
คลิปในร้านอาหารและการรุมทำร้ายถูกแพร่ออกไปในโซเชียลจีนอย่างรวดเร็ว ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงกลายเป็นข่าวร้อนอันดับหนึ่งในแพลตฟอร์มข่าวออนไลน์ต่างๆ ทำให้กลุ่มชาย 9 คนที่ก่อเหตุนี้ถูกตำรวจจับกุมได้ทั้งหมดในวันถัดจากวันเกิดเหตุ โดยใน 9 คนนี้มีอยู่ 5 คนมีคดีติดตัว มีคนที่เพิ่งออกมาจากคุก มีคนที่มีคดีติดเครดิตบูโร ส่วนชายตัวการก่อเหตุถูกจับที่เจียงซู ขณะขับรถหนี โดยคนร้ายได้ขับรถยนต์หรูมายบัค (Maybach) ราคากว่า 10 ล้านบาท พร้อมป้ายทะเบียน 7777 ทำให้ชาวโซเชียลที่ติดตามข่าวอดคิดไม่ได้ว่ากลุ่มคนพวกนี้เป็นมาเฟีย และมีคนมีอิทธิพลช่วยปกป้อง ที่คนจีนเรียกกันว่า “保护伞”อ่านว่า เป่าหู้ส่าน อยู่หรือไม่ คำนี้แปลตรงตัวคือ “ร่มที่คุ้มครอง” จะหมายถึงผู้มีอิทธิพลช่วยคุ้มครองอยู่เพราะการก่อเหตุที่อุกอาจและท้าทายกฎหมาย
ชาวโซเชียลให้ความสนใจกับอาการบาดเจ็บของหญิงที่ถูกทำร้าย ทางโรงพยาบาลได้ระบุว่า หญิง 2 รายที่ถูกส่งเข้าโรงพยาบาลนั้น “บาดเจ็บเล็กน้อย” ทั้งที่ตามหลักฐานการถูกทำร้ายระบุอาการบาดเจ็บหนัก ส่วนชายที่ก่อเหตุหลังจากทำร้ายผู้หญิงก็ได้เรียกรถพยาบาลไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเดียวกันแต่ไม่ได้แอดมิด แต่ทางโรงพยาบาลระบุว่าชายก่อเหตุนี้ “บาดเจ็บระดับกลาง” ซึ่งยิ่งทำให้คนจำนวนมากติดตามข่าวและเรียกร้องความยุติธรรมให้ผู้หญิงที่ถูกทำร้าย และเรียกร้องให้ทางการเข้ามาดูคดีนี้อย่างโปร่งใส
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ประชาชนที่ติดตามข่าวหวาดผวาภัยอันตรายต่อชีวิต โดยเฉพาะกลุ่มผู้หญิงที่ปกติก็อ่อนแอกว่าอยู่แล้ว การออกไปข้างนอกตอนกลางคืนคนเดียวหรือกับกลุ่มเพื่อนหญิงอาจจะเป็นเรื่องที่ต้องคิดแล้วคิดอีกมากขึ้น และหลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น กลุ่มสิทธิสตรีจีนก็ได้ออกมาเรียกร้องกับทางการให้จัดการกับกลุ่มชายพวกนี้อย่างเด็ดขาด อีกทั้งเรียกร้องความปลอดภัยของผู้หญิงที่ยังมีเรื่องของการถูกคุกคามทางเพศอย่างมากมาย
ทันทีสื่อของทางการอย่าง ไชน่า เดลี่ (China Daily) ได้ออกข่าวมาเตือนว่า “เหตุการณ์ที่กลุ่มชายรุมตีผู้หญิง เป็นเรื่องที่น่าตกใจ ไม่เพียงแค่ท้าทายกฎหมายเท่านั้น แต่ยังท้าทายกับกฎระเบียบของสังคม ท้าทายความรู้สึกปลอดภัยในชีวิตของประชาชน หญิงที่ถูกทำร้ายยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลและต้องการความยุติธรรม และกลุ่มคนที่ก่อเหตุจำเป็นต้องได้รับการลงโทษอย่างหนักที่สุด ประชาชนรอคอยวันนั้น”
การออกมาตีข่าวของกระบอกเสียงระดับอินเตอร์ของจีนอย่างไชน่า เดลี่ เป็นสัญญาณว่ารัฐบาลกลางให้ความสำคัญกับเรื่องนี้และจับตาอยู่
การออกมาเปิดโปงมาเฟียเมืองถังซานไม่ได้จบลงแค่นี้ มีการเปิดโปงเรื่องราวอื่นติดๆ กันเกี่ยวกับมาเฟียถังซาน ตัวอย่างกรณีที่เป็นข่าวดัง ดังนี้
- กรณีชายผู้หนึ่งได้อัดคลิปพร้อมบัตรประชาชนของตัวเองว่า ขอเปิดโปงเรื่องราวของตนที่เกิดขึ้นช่วงเดือน ก.ค.2021 โดยตนเองได้เปิดร้านขายเบเกอรีใหม่และมีกลุ่มพวกมาเฟียในท้องที่มาก่อกวนหลายครั้งเพื่อเรี่ยไรเงินเก็บส่วย กลุ่มมาเฟียทำลายข้าวของในร้านและพังประตูร้าน และตัวเขาเองได้ไปแจ้งตำรวจแต่ก็ไม่ได้มีความคืบหน้าอะไร สุดท้ายแล้วเขาต้องปิดร้านเบเกอรีของตัวเองลง โดยเขาได้เปิดเผยอีกว่าคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มมาเฟียอิทธิพลในท้องที่ ไม่มีใครทำอะไรได้และยังเคยท้าทายเขาให้ไปแจ้งตำรวจ หลังจากการปล่อยคลิปเปิดโปงกรณีนี้ไม่นานกลุ่มมาเฟียที่เขากล่าวหาก็ถูกจับมาดำเนินคดีทันที
- หญิงสาวคนหนึ่งก็ออกมาอัดคลิปพร้อมบัตรประชาชนตัวเองอีกเช่นกัน เปิดโปงเรื่องถูกแก๊งมาเฟียทำร้าย ในโซเชียลว่า เธอเป็นนักร้องในผับบาร์แห่งหนึ่ง เพิ่งเข้าทำงานได้ไม่นาน มีอยู่วันหนึ่งเจ้าของนัดไปรับเงินเดือน เขาก็ไปกับเพื่อนที่ทำงานด้วยกัน พอถึงแล้วก็ถูกกักขัง พนักงานในร้านคนอื่นๆ ถูกซ้อม โดยตัวเธอถูกขังในกรงหมาและถูกด่าหยาบคาย ถูกกักขังเป็นเวลากว่า 16 ชั่วโมง ถูกยึดมือถือ กระเป๋าและข้าวของทุกอย่าง หลังจากที่หนีออกมาได้ก็ตรงไปแจ้งความกับตำรวจทันที แต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า และแน่นอนหลังจากที่หญิงคนนี้ออกมาเปิดโปงได้ไม่นาน ถูกชาวโซเชียลดันเป็นข่าวร้อนและคนร้ายที่เกี่ยวข้องกับผับบาร์แห่งนี้ก็ถูกจับกุมตัว และผับบาร์แห่งนี้ถูกให้ปิดกิจการ
- กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่ขายอัญมณีร่วมกันถ่ายบัตรประชาชนของตนอัดคลิปเปิดโปงเรื่องราวที่ถูกหลอกลวง โดยมีมาเฟียหญิงผู้ทรงอิทธิพลได้บอกให้พวกตนเอาอัญมณีสินค้าที่ทุกคนมีอยู่ออกมาวางขายที่ร้านของมาเฟียหญิงผู้ทรงอิทธิพลและสุดท้ายถูกมาเฟียหญิงกวาดฮุบอัญมณีไปทั้งหมด คิดเป็นมูลค่ากว่า 30 ล้านหยวน และยังออกมาเปิดโปงเจ้าหน้าที่รัฐในท้องถิ่นที่ทำตัวเป็นมาเฟียรังแกประชาชนอีกมากมาย เมื่อเรื่องมาเฟียในถังซานได้รับความสนใจจากคนทั้งประเทศ ประชาชนทั้งหลายที่ได้รับผลกระทบหรือเคยถูกรังแกก็ต่างออกมาเปิดโปงและทำให้ในช่วงที่ผ่านมาสถานีตำรวจหลายที่ในเมืองถังซานมีประชาชนไปรอแจ้งความอยู่เป็นจำนวนมาก
หลังจากข่าวอื้อฉาวของเมืองถังซานเป็นข่าวออกมามากมาย รัฐบาลกลางและรัฐบาลหลายท้องที่ก็ออกมาปราบปรามล้างบางมาเฟียกันอีกครั้ง โดยเมืองถังซานได้ออกนโยบายที่เรียกว่า “ปฏิบัติการพายุฝนฟ้าคะนอง” คือการมีช่องทางเฉพาะให้ประชาชนที่พบเบาะแสหรือถูกรังแกสามารถร้องเรียนได้โดยตรงที่เบอร์กลาง พร้อมเบอร์มือถือที่ติดต่อได้ตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งหากไม่ได้รับการแก้ไขก็มีเบอร์ร้องเรียนเพิ่มเติมอีก เอาเป็นว่าเรื่องราวของถังซานในคราวนี้สั่นสะเทือนวงการตำรวจและหน่วยงานความมั่นคงทั้งประเทศจีนเลยทีเดียว
โดยการปราบปรามมาเฟียประเภทต่างๆ รัฐบาลกลางจีนให้คำจำกัดความไว้ว่าต้อง “เร็ว ถูกจุด ข้อมูลพร้อม เด็ดขาด” ในหนึ่งคดีต้องตรวจสอบรอบด้าน หาตัวการใหญ่มาลงโทษให้ได้ โดยเฉพาะในภาคส่วนของการเงินและการธนาคารต้องเคร่งครัดในการตรวจสอบเส้นทางทางการเงินของกลุ่มคนที่ปฏิบัติตนผิดกฎหมาย สรุปคือถึงแม้ว่ากฎหมายในจีนจะรุนแรงแต่กลุ่มผู้กระทำผิดและการรังแกประชาชนก็ยังมีอยู่ไม่น้อยในสังคม