เดอะสแตนดาร์ด/เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - ภัตตาคารลอยน้ำ “จัมโบ้คิงดอม” (Jumbo Kingdom Floating Restaurant) สีสันการท่องเที่ยวฮ่องกง ต้องโบกมืออำลาเกาะแห่งนี้อย่างแน่นอนแล้ว หลังจากหาผู้ดำเนินกิจการคนใหม่ไม่ได้ และรัฐบาลฮ่องกงปฏิเสธโอบอุ้ม
“เมลโค อินเตอร์เนชั่นแนล ดิเวลลอปเมนต์” (Melco International Development) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ระบุว่า เรือสไตล์เก๋งจีนลำมหึมาจะล่องออกจากท่าเรืออะเบอร์ดีนในเดือนนี้ (มิ.ย.) เนื่องจากบริษัทแบกรับภาระซ่อมบำรุงไม่ไหว
เรื่องราวอันนำไปสู่จุดจบของตำนานที่อยู่คู่กับฮ่องกงมานานกว่า 40 ปีเริ่มขึ้น เมื่อภัตตาคารลอยน้ำยักษ์เจอพิษโควิด-19 จนต้องหยุดกิจการชั่วคราวเมื่อเดือน มี.ค.2563 ทว่าเหมือนได้ต่อลมหายใจอีกเฮือก เมื่อในตอนนั้นเมลโค ได้ทำข้อตกลงกับรัฐบาลฮ่องกง โดยจะบริจาคภัตตาคารลอยน้ำให้บริษัท“โอเชียนปาร์ก” เจ้าของสวนสนุก ภายใต้ โครงการฟื้นฟูการท่องเที่ยวในเขตตอนใต้ของเกาะฮ่องกง (Invigorating Island South (IIS) initiative) ซึ่งข้อตกลงทั้งหมดนี้อยู่ในการแถลงนโยบายประจำปี 2563 ของนางแคร์รี แลม หัวหน้าเขตบริหารพิเศษฮ่องกง
แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ล่ม เมื่อโอเชียนปาร์กไม่สามารถหาผู้ร่วมดำเนินกิจการฝ่ายที่ 3 ได้ การบริจาคจึงเป็นโมฆะ โดยเมลโคแถลงเรื่องนี้เมื่อวันจันทร์ (30 พ.ค.) ว่า ได้รับแจ้งอย่างเป็นทางการจากโอเชียนปาร์กตั้งแต่สิ้นปี 2564
ขณะที่เมลโค และ อะเบอร์ดีน เรสเทอรองต์ เอนเทอร์ไพรเซส (Aberdeen Restaurant Enterprises) ซึ่งเป็นเจ้าของจัมโบ้คิงดอม พยายามเจรจากับบริษัทกว่าสิบราย เพื่อบริจาคเรือลำนี้ แต่ไม่มีใครเอา เพราะต้นทุนดำเนินกิจการสูง
จัมโบ้คิงดอม ถูกตอกฝาโลงสนิท เมื่อนางแลม ประกาศล่าสุดว่า รัฐบาลฮ่องกงจะไม่นำเงินภาษีจากประชาชนมาอัดฉีดจัมโบ้คิงดอม หากการเจรจาหาผู้รับบริจาคล้มเหลว รัฐบาลฮ่องกงก็ไม่สามารถทำอะไรได้อีก
ด้านเมลโคเปิดใจว่า ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ จัมโบ้คิงดอม เป็นภาระทางการเงินที่หนักอึ้งสำหรับบริษัทและผู้ถือหุ้น โดยต้องเสียค่าซ่อมบำรุงเป็นเงินหลายล้านดอลลาร์ฮ่องกงแต่ละปี เพื่อรักษาสภาพของเรือตามข้อกำหนดในใบอนุญาตประกอบกิจการ ซึ่งจะหมดอายุในเดือนนี้แล้ว
จัมโบ้คิงดอม เคยถวายการต้อนรับควีนเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ เสิร์ฟอาหารรสเลิศสไตล์กวางตุ้งแก่บุคคลสำคัญต่างประเทศ ดาราชื่อดังของฮ่องกงและฮอลลีวูด ตลอดจนนักท่องเที่ยวอีกหลายสิบล้านคน ซึ่งต้องหาโอกาสแวะมาให้ได้
สำหรับทางออกที่เหลืออยู่หนทางเดียวในตอนนี้คือ มองหาอู่จอดและซ่อมบำรุงนอกฮ่องกง ที่ราคาถูกกว่าเดิม ระหว่างรอผู้รับช่วงดำเนินธุรกิจรายใหม่ ท่ามกลางความเศร้าเสียใจของใครหลายคน ที่หวังว่า หัวหน้าเขตบริหารพิเศษฮ่องกงคนใหม่จะพิจารณาทบทวนเรื่องการอัดฉีดเงินช่วยเหลือ เพื่อฟื้นคืนชีพตำนานแห่งความทรงจำของชาวฮ่องกงนี้ แต่บางคนก็กลัวว่า ภัตตาคารลอยน้ำจัมโบ้คิงดอมอาจไม่หวนคืนมาฮ่องกงอีกแล้ว