โกลบอลไทมส์ - จีนพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธ์ุโอมิครอน สายพันธุ์ย่อย BA.2.12.1 รายแรกของประเทศ เป็นชายชาวจีนเดินทางมาจากต่างประเทศ เข้ามายังมณฑลกว่างตง ทางภาคใต้ โดยสายพันธ์ุ BA.2.12.1 มีความสามารถในการแพร่เชื้อได้สูงกว่า BA.2 ประมาณ 23-27%
ในรายงานประจำสัปดาห์ของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีน (China CDC.) ระบุว่า ชายวัย 27 ปีผู้นี้เดินทางมาจากกรุงไนโรบี ประเทศเคนยา ด้วยสายการบินเคนยาแอร์เวย์ เที่ยวบิน KQ880 ถึงเมืองกว่างโจว เมื่อวันที่ 23 เม.ย.
ภายหลังจากเครื่องบินลงจอด ผู้โดยสารและลูกเรือทั้งลำได้เข้าสู่กระบวนการกักตัวเพื่อสังเกตอาการ ตามมาตรการคัดกรองเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งเป็นเวลา 14 วัน และในช่วงระหว่างนี้เองได้มีการตรวจหาเชื้อ และผลการตรวจของชายชาวจีนผู้นี้ออกมาเป็นบวกเมื่อวันที่ 27 เม.ย.
นับเป็นการติดเชื้อทั้งๆ ที่เขามีประวัติได้รับวัคซีนโควิด-19 ครบโดสมาแล้ว และไม่ได้มีการพบปะติดต่อกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในช่วง 14 วันที่ผ่านมา
ทางการจึงได้ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลในเมืองกว่างโจว และต่อมาจากการตรวจลำดับพันธุ์กรรมของตัวอย่างเชื้อ ซึ่งได้จากการสวอบโพรงจมูก มีผลออกมาเมื่อวันที่ 30 เม.ย.ว่า เป็นสายพันธุ์ BA.2.12.1 จึงได้ส่งผลตรวจไปยังศูนย์ข้อมูลจีโนมแห่งชาติ เพื่อการศึกษาเพิ่มเติมต่อไป
ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกประกาศเตือนเมื่อวันที่ 4 พ.ค. ให้ชาติต่างๆ เฝ้าระวังสายพันธุ์ย่อย BA.2.12.1 อย่างใกล้ชิด โดยหากเปรียบเทียบกับเชื้อสายพันธุ์ย่อยอื่นๆ ของโอมิครอนแล้ว เชื้อตัวนี้มีความสามารถในการต้านทานกับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายได้แข็งแกร่งกว่า แม้แต่ในผู้ที่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกันแล้วก็ตาม
นอกจากนั้น ความสามารถในการแพร่กระจายเชื้ออย่างรวดเร็วมากของมันส่งผลให้สหรัฐฯ กลับมาพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้นอีกครั้งในหลายพื้นที่ของประเทศขณะนี้ โดยในบางพื้นที่นั้นยังเป็นสายพันธ์ุหลักของการแพร่ระบาดอีกด้วย ซึ่งจากรายงานของเว็บไซต์ US News ระบุว่า รัฐนิวยอร์กและนิวเจอร์ซีมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ติดเชื้อ BA.2.12.1 มากถึงร้อยละ 66 เมื่อสัปดาห์ก่อน
ขณะที่องค์การอนามัยโลกได้รับรายงานพบผู้ติดเชื้อ BA.2.12.1 แล้วอย่างน้อย 23 ประเทศและดินแดน