xs
xsm
sm
md
lg

ตุลาการจอมวางแผนเมืองจีนถูกจำคุกหัวโต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ IC
กลุ่มสื่อจีน - นโยบายกวาดล้างการทุจริตคอร์รัปชันให้สิ้นซากในเมืองจีนถูกขับเคลื่อนอย่างไม่หยุดยั้ง เจ้าหน้าที่รัฐรายล่าสุด ซึ่งถูกกฎหมายเชือดหมดโอกาสเสวยสุขคือนาย “หวัง หลินชิง” อดีตผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลประชาชนสูงสุด

เขาถูกศาลในกรุงปักกิ่งพิพากษาจำคุก 14 ปี และถูกปรับเงินจำนวน 1 ล้านหยวน เมื่อวันเสาร์ที่ 7 พ.ค. โทษฐานรับสินบน และลอบนำความลับของชาติออกเผยแพร่

ในคำตัดสินของศาลระบุว่า จำเลยอาศัยตำแหน่งผู้ช่วยผู้พิพากษา ระหว่างปี 2551-2561 ให้การช่วยเหลือบริษัท 2 ราย และทนายความ 11 คน เพื่อประโยชน์ในการไต่สวนคดี แลกกับเงินตอบแทนคิดเป็นจำนวนรวมกันราว 21 ล้าน 9 แสนหยวน

บริษัทหนึ่งในจำนวนนี้เป็นบริษัทการลงทุนด้านพลังงานในเมืองอี้ว์หลิน มณฑลส่านซี ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือ โดยตั้งแต่ปี 2554-2561 เขารับเงินเข้าพกเข้าห่อ ซึ่งรวมทั้งในลักษณะของการมอบบัตรเติมเงินชอปปิ้ง จากนายเจ้า ฟาฉี เจ้าของบริษัท รวมทั้งสิ้น 350,000 หยวน

นายเจ้าผู้นี้ยังเป็นโจทก์ยื่นฟ้องสำนักสำรวจทางธรณีวิทยาและแร่ของมณฑลส่านซี ในเรื่องกรรมสิทธิ์เหมือง โดยเขาขอให้นายหวัง ถ่ายสำเนาเอกสารซึ่งถือเป็นความลับเกี่ยวกับคดีความ

อำนาจเงินตราทำให้ผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลประชาชนสูงสุดในเวลานั้นย่ามใจถึงกับส่งสำเนาเอกสารตามคำขอไปให้นายเจ้าผ่านทางวีแชต และอีเมล ซึ่งจากการตรวจสอบของทางการในเวลาต่อมาพบว่า เอกสารเหล่านี้มี 5 ฉบับ ที่ถือเป็นความลับของชาติ

นายหวัง หลินชิง อดีตผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลประชาชนสูงสุด - ภาพ CCTV
นอกจากนั้น นายหวังยังขโมยเอกสารบางฉบับที่ไม่เป็นประโยชน์ในการต่อสู้คดีของนายเจ้า และจัดการทำลาย เพื่อกำจัดหลักฐาน

แต่ในที่สุดความชั่วร้ายของนายหวังก็ถูกเปิดโปง เมื่ออดีตผู้ประกาศของสถานีโทรทัศน์ชื่อดังคนหนึ่งได้โพสต์ ใน “ซีนาเวยปั๋ว” ทวิตเตอร์เวอร์ชันจีน ในเดือน ธ.ค.2561 เรื่องเอกสารสำคัญบางชิ้นได้หายไปจากอาคารที่ทำการของศาลประชาชนสูงสุด


อดีตผู้ประกาศยังได้ลงรูปและคลิปวิดีโอ ซึ่งนายหวัง ส่งไปให้และเล่นละครตบตาอดีตผู้ประกาศ รวมทั้งคนจีนทั้งประเทศ โดยบอกว่า รู้สึกตกใจที่เอกสารหายไปจากหน่วยงานของตน นายหวัง กับนายเจ้า ยังร่วมกันแต่งเรื่องด้วยว่า นายหวัง ตกเป็นเหยื่อของเพี่อนร่วมงาน

โพสต์ของอดีตผู้ประกาศทำให้ศาลสูงสุดกลายเป็นเป้าสนใจของสังคม ร้อนถึงหน่วยงานระดับชาติ ซึ่งรวมทั้งศาลประชาชนสูงสุดและกระทรวงพิทักษ์สันติราษฎร์ จึงได้ตั้งทีมสอบสวนร่วมกัน กระทั่งสุดท้ายนายหวัง กับพวกก็ไปไม่รอด

ในคำตัดสินของศาลระบุว่า พฤติกรรมของนายหวัง บ่อนทำลายความน่าเชื่อถือของระบบตุลาการอย่างร้ายแรง และการขโมยความลับของชาติส่งส่งผลเสียหายแก่สังคม

แต่ยังดีที่นายหวัง ยอมมอบตัวต่อตำรวจและรับสารภาพผิด พร้อมกับคืนเงินสินบนทั้งหมด ศาลจึงปรานีอยู่บ้าง ไม่งั้นเขาอาจถูกตัดสินจำคุกนานกว่านี้



กำลังโหลดความคิดเห็น