กลุ่มสื่อต่างประเทศ - เมื่อวันพุธที่ 4 พ.ค. คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. ของสหรัฐฯ ได้เพิ่มบริษัทรายใหญ่ของจีนอีกกว่า 80 ราย เข้าไว้ในบัญชีบริษัทมีความเสี่ยงที่จะถูกขับออกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ
บริษัทแดนมังกรซึ่งถูกใส่ชื่อเพิ่มเข้าไปคราวนี้ มีบริษัทเทคโนโลยีชื่อดังรวมอยู่ด้วย เช่น เจดีด็อตคอม (JD.com) ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซ พินตัวตัว (Pinduoduo Inc) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสินค้าเกษตรยอดนิยม ปีลีปีลี (Bilibili Inc) ผู้ให้บริการสตรีมมิ่ง และ เน็ตอีส (NetEase Inc.) บริษัทเกมออนไลน์ รวมไปถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานอย่าง ซิโนเปก (Sinopec) จินโกโซลาร์ (JinkoSolar Holding Co Ltd) ผู้ผลิตแผงโซลาร์เซลล์รายใหญ่ที่สุดของโลก และบริษัทรถยนต์ไฟฟ้านีโอ (NIO Inc) โดยบริษัทที่ถูกขึ้นบัญชีเหล่านี้มีเวลาในการยื่นคำร้องคัดค้านจนถึงวันที่ 25 พ.ค.
รวมบริษัทจีนซึ่งถูกขึ้นบัญชีเสี่ยงถูกถอดจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ จนถึงขณะนี้แล้วกว่า 120 ราย ซึ่งรวมทั้งบริษัทบิ๊กเนมอย่าง หลี่ ออโต้ (Li Auto) ไป่ตู้ (Baidu) บริการเว็บค้นหาข้อมูล และ ยัมไชน่าโฮลดิ้ง (Yum China Holdings) เจ้าของธุรกิจ KFC และ Pizza Hut โดยปัจจุบันมีบริษัทสัญชาติจีนจดทะเบียนซื้อขายหุ้นในตลาดสหรัฐฯ แล้วราว 250 ราย มีมูลค่าหุ้นตามราคาตลาดรวมกัน ( Market Cap.) กว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ จากรายงานของวอลล์สตรีท เจอร์นัล
นับเป็นการปล่อยหมัดล่าสุดของ ก.ล.ต. สหรัฐฯ ในการขับเคี่ยวกับผู้คุมกฎของจีน โดยที่ผ่านมารัฐบาลปักกิ่งอ้างเหตุผลด้านความมั่นคง จึงไม่อนุญาตให้ฝ่ายสหรัฐฯ ตรวจสอบบัญชีของบริษัทจีน ซึ่งเป็นไปตามกฎที่บริษัทต่างชาติต้องเปิดเผยข้อมูล ก่อนเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เพื่อให้นักลงทุนได้ทราบสถานะของบริษัทก่อนตัดสินใจลงทุน ซึ่งรวมทั้งข้อมูลสัดส่วนการถือครองหุ้นในบริษัทด้วย แต่สหรัฐฯ ก็ยอมปล่อยให้บริษัทจีนซื้อขายหุ้นในตลาดจนถึงขณะนี้ แม้จะไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับว่าด้วยการเปิดเผยข้อมูลก็ตาม
จนกระทั่งสหรัฐฯ มีการออกกฎหมายชื่อ Holding Foreign Companies Accountable Act ว่าด้วยการถือครองบริษัทต่างชาติ ซึ่งลงนามรับรองในสมัยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อปี 2563 กฎหมายฉบับนี้ระบุให้บริษัทต่างชาติที่ไม่ยอมเปิดเผยบัญชีของบริษัทและปฏิบัติตามมาตรฐานการตรวจสอบของ ก.ล.ต.สหรัฐฯ ภายในเวลา 3 ปี จะต้องถูกขับออกจากตลาดหุ้น นับเป็นกฎหมายที่มุ่งเป้าไปยังบริษัทจีนเป็นพิเศษ
อาศัยกฎหมายฉบับดังกล่าว ก.ล.ต.สหรัฐฯ จึงประกาศรายชื่อบริษัทที่เสี่ยงถูกขับจากตลาดครั้งแรกเมื่อต้นเดือน เม.ย. ทำให้ก.ล.ต. ของจีนได้เสนอให้มีการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบเกี่ยวกับการรักษาความลับของชาติในการจดทะเบียนตลาดหุ้นต่างประเทศ เพื่อให้ฝ่ายสหรัฐฯ เข้าถึงข้อมูลของบริษัทจีนได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ต้องรอการพิจารณาอนุมัติจากรัฐบาลจีนเสียก่อน