มีรายงานข่าวว่า จีนกำลังกลัวเรื่องที่อาจถูกชาติตะวันตกคว่ำบาตรเข้าสักวันหนึ่ง เหมือนอย่างที่รัสเซียถูกเล่นงานหยกๆ ดังนั้น ปักกิ่งจึงกำลังหาทางหนีทีไล่ เพื่อปกป้องทรัพย์สินในต่างแดนไม่ให้ถูกอายัดได้ง่ายๆ
กรณีรัสเซียบุกยูเครนได้สอนบทเรียนที่ยากไม่ใช่เล่นให้พญามังกร ซึ่งก็มีปัญหายืดเยื้อกับไต้หวันมานาน โดยถือว่า เกาะมังกรน้อยเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตน แต่อีกฝ่ายปฏิเสธ ด้วยเหตุนี้เองจึงเกิดการคาดเดากันว่า ไต้หวันคงไม่แคล้วถูกจีนบุกโจมตีและผนวกดินแดนไม่วันใดก็วันหนึ่ง
การคว่ำบาตรที่สหรัฐฯ และชาติพันธมิตร กระหน่ำใส่รัสเซีย ด้วยมั่นใจว่าจะหยุดยั้งปฏิบัติการพิเศษทางทหารของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ในยูเครนได้นั้น มีอยู่หลายมาตรการ เช่น การตัดสถาบันการเงินรายใหญ่ของรัสเซียจากระบบการโอนเงินสวิฟต์ (SWIFT) ซึ่งเชื่อมโยงกับสถาบันการเงินทั่วโลก การอายัดทรัพย์สินของธนาคารกลางรัสเซียในต่างแดน และทรัพย์สินของมหาเศรษฐีนักธุรกิจชาวรัสเซีย รวมทั้งสมาชิกในครอบครัว
จากรายงานของหนังสือพิมพ์ “ไฟแนนเชียลไทมส์” ซึ่งได้รับข้อมูลจากบุคคลวงในระบุว่า เมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางและกระทรวงการคลังของจีนได้จัดการประชุมฉุกเฉินร่วมกับตัวแทนของธนาคารทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น เอชเอสบีซี เพื่อหารือแนวทางในการปกป้องทรัพย์สินของจีน ซึ่งมีทุนสำรองระหว่างประเทศมากถึง 3.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูง ที่เข้าร่วมการประชุม เช่น นายอี้ หุยหม่าน ประธานคณะกรรมการกำกับดูแลหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) และนายเสี่ยว กัง ซึ่งเคยเป็นประธาน CSRC ระหว่างปี 2556-2559
แหล่งข่าวรายหนึ่งยังบอกด้วยว่า หากจีนโจมตีไต้หวัน และถูกลงโทษด้วยการตัดขาดเศรษฐกิจของจีนจากเศรษฐกิจชาติตะวันตก จะก่อผลเสียหายรุนแรงยิ่งกว่าที่ทำกับรัสเซีย เพราะพญามังกรฝากรอยเท้าทางเศรษฐกิจอยู่ทุกหนแห่งในโลก
และขณะนี้จีนกับรัสเซียเองก็กำลังทำงานร่วมกันในการสร้างระบบการโอนเงิน เพื่อใช้แทนระบบสวิฟต์
นายดักลาส เอช.พาล แห่งกองทุนบริจาคคาร์เนกีเพื่อสันติภาพระหว่างประเทศ (Carnegie Endowment for International Peace) ระบุกับอินไซเดอร์ (INSIDER) เมื่อเดือน มี.ค.ว่า ปักกิ่งกำลังมองดูด้วยความสนใจอย่างยิ่งว่า มาตรการคว่ำบาตรที่ใช้กับรัสเซีย จะมีผลอย่างไรบ้างหากตนเองโดนเข้าบ้าง และถ้าจะบุกโจมตีไต้หวัน จีนก็คาดอยู่แล้วว่า สหรัฐฯ จะจัดมาตรการคว่ำบาตรชุดใหญ่ให้อย่างแน่นอน
นายแอนดรูว์ คอลลิเออร์ กรรมการผู้จัดการของบริษัทโอเรียนต์แคปปิตอลรีเสิร์ช (Orient Capital Research) ในฮ่องกงมองว่า การวิตกกังวลไว้ก่อนของปักกิ่งเป็นสิ่งถูกต้องแล้ว เพราะเหลือทางให้เลือกน้อยเต็มที อีกทั้งผลที่จะเกิดขึ้นตามมาจากการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ นั้นก็เรียกได้ว่า สาหัสสาหกรรจ์ทีเดียว
ข้อมูลจาก “China is working to protect its overseas assets amid fears the US could impose Russia-style sanctions, reports say” ใน INSIDER