เอพี - บิ๊กทหารของจีนและอิหร่านประกาศส่งเสริมความร่วมมือกันเพื่อต้านอิทธิพลของสหรัฐฯ ที่ชอบลงโทษชาติอื่นตามอำเภอใจฝ่ายเดียว
ปักกิ่งส่ง พล อ.เว่ย เฟิงเหอ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมไปเยือนกรุงเตหะราน เมื่อวันพุธที่ 27 เม.ย. และได้มีโอกาสพบกับประธานาธิบดี อิบราฮิม ไรซี ของอิหร่าน
ตามรายงานของสำนักข่าวไออาร์เอ็นเอ สื่อทางการอิหร่าน ประธานาธิบดี ไรซี แจ้งกับ พล.อ.เว่ย ว่า รัฐบาลอิหร่านมองความสัมพันธ์กับจีนเป็นเรื่องทางยุทธศาสตร์ และการกระชับความร่วมมือใกล้ชิดกันยิ่งขึ้น จะช่วยให้สามารถเผชิญหน้ากับลัทธิกระทำเพียงฝ่ายเดียว (unilateralism) ของสหรัฐฯ ตามที่ประธานาธิบดีอิหร่านเรียกได้
อิหร่านแสดงความต้องการที่จะขยายความร่วมมือกับจีน ในช่วงเวลาเดียวกับที่การเจรจาเพื่อรื้อฟื้นข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 ระหว่างอิหร่านกับชาติมหาอำนาจตะวันตกรวมทั้งจีน เจอทางตัน ส่งผลให้อิหร่านยังปลดแอกการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ไม่ได้
“การเผชิญหน้ากับลัทธิกระทำเพียงฝ่ายเดียว ตลอดจนการสร้างความมั่นคงและความสงบเรียบร้อย มีความเป็นไปได้ก็ด้วยความร่วมมือระหว่างชาติมหาอำนาจที่มีอิสระและใจตรงกัน” ประธานาธิบดีไรซี ระบุ
ด้าน พล อ.เว่ย ตอบว่า การเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับอิหร่านจะก่อให้เกิดความมั่นคง “โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่วิกฤตและตึงเครียดขณะนี้”
บิ๊กทหารของจีนยังได้พบหารือกับ พล.อ.โมฮัมหมัด เรซา อัชเตียนี รัฐมนตรีกลาโหมของอิหร่าน พร้อมกับเชิญฝ่ายอิหร่านไปเยือนจีน
สำนักข่าวไออาร์เอ็นเอ ยังหยิบยกคำพูดของ พล.อ.อัชเตียนี ซึ่งวิพากษ์วิจารณ์การปรากฏตัวของทหารสหรัฐฯ ในภูมิภาคตะวันออกกลางและที่อื่นๆ ว่า “ทหารสหรัฐฯ อยู่ที่ไหน ที่นั่นจะเกิดความปั่นป่วน เกิดความไม่มั่นคง ไร้เสถียรภาพ การแตกแยก การมองโลกแง่ร้าย สงคราม การทำลายล้าง และการอพยพจากถิ่นฐานของผู้คน”
พล.อ.เว่ย ระบุว่า การมาเยือนของเขามีจุดประสงค์ก็เพื่อ “ส่งเสริมความร่วมมือด้านการป้องกันเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างอิหร่านกับจีน เป็นความร่วมมือ ซึ่ง พล.อ.เว่ย กล่าวว่า จะส่งผล “ที่ไม่ธรรมดา” ในการขจัดลัทธิกระทำเพียงฝ่ายเดียว และการต่อสู้กับลัทธิการก่อการร้าย
อิหร่านและจีนดำเนินความร่วมมือทางทหารระหว่างกันมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยส่งเรือรบไปเยือนเมืองท่าของอีกฝ่ายแลกเปลี่ยนกัน และมีการซ้อมรบร่วมในมหาสมุทรอินเดีย
นอกจากนั้น ในปี 2564 ยังมีการลงนามข้อตกลงความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระยะเวลา 25 ปี ครอบคลุมเศรษฐกิจภาคต่างๆ ตั้งแต่น้ำมันไปจนถึงการทำเหมืองแร่ รวมทั้งความร่วมมือด้านเกษตรกรรมและการคมนาคมขนส่ง เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของอิหร่านอีกด้วย