“หวัง เหวินปิน” ทำหน้าที่โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนได้อย่างสมศักดิ์ศรี หลังจากจีนถูกออสเตรเลียใส่ร้ายป้ายสีซ้ำซาก กรณีรัฐบาลปักกิ่งลงนามข้อตกลงความมั่นคงกับหมู่เกาะโซโลมอนไปเมื่อสัปดาห์ก่อน
กระทรวงต่างประเทศแดนมังกรตำหนินายสก็อต มอร์ริสัน นายกรัฐมนตรี และนายปีเตอร์ ดัตตัน รัฐมนตรีกลาโหมของออสเตรเลีย ว่า มีเจตนาบิดเบือนข้อตกลงดังกล่าว โดยนายกรัฐมนตรีออสซี่พูดอยู่นั่นแล้วว่า จีนกำลังสร้างฐานทัพบนหมู่เกาะโซโลมอน ซึ่งตั้งอยู่แถบมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ และยังบอกอีกว่า สำหรับออสเตรเลียและสหรัฐฯ แล้ว นี่ถือเป็นการก้าวข้าม “เส้นสีแดง” ซึ่งมีความหมายว่า ออสเตรเลียและพี่เบิ้มเมกาจะไม่ยอมทนอีกต่อไป
ในการแถลงข่าวตามปกติเมื่อวันจันทร์ที่ 25 เม.ย. โฆษกหวัง ได้ชี้แจง โดยกล่าวเน้นย้ำว่า การก่อสร้างฐานทัพอย่างที่นายกรัฐมนตรีออสซี่ว่านั้น เป็นเฟกนิวส์ทั้งเพ
โฆษกหวัง ยังกล่าวต่อไปว่า สหรัฐฯ กับออสเตรเลียเอาแต่ก่นด่าข้อตกลงฉบับนี้ว่า ขาดความโปร่งใส ก็แล้วทีสหรัฐฯ อังกฤษ และออสเตรเลีย ทำข้อตกลงความร่วมมือด้านความมั่นคง “ออกัส” (AUKUS) เล่า ก็วางแผนกันใต้โต๊ะมิใช่หรือ โดยซุ่มกันทำปราศจากการเปิดเผย และไร้ความโปร่งใส
เมื่อใดกันเล่าที่สหรัฐฯ อังกฤษ และออสเตรเลีย จะส่งข้อตกลง “ออกัส” ให้บรรดาชาติในภูมิภาคแปซิฟิกใต้ได้พิจารณาไต่ตรองเนื้อหา และเมื่อใดกันเล่าที่สหรัฐฯ จะปิดฐานทัพของตัวเองที่มีอยู่ 800 แห่งในกว่า 80 ประเทศ และภูมิภาคทั่วโลก ซึ่งได้ก่อความวิตกกังวลในหมู่นานาชาติ โฆษกหวังย้อนถาม
ส่วนที่รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลียระบุเมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 เม.ย.ว่า จีนจ่ายสินบน เพื่อแลกกับการทำข้อตกลงกับนานาชาตินั้น โฆษกหวัง โต้ว่า เป็นข้อกล่าวหา ฃที่หาข้อพิสูจน์อะไรไม่ได้เลย
“แทนที่จะเอาเวลามาเทศนาเผยแพร่ความเท็จเกี่ยวกับจีน เพื่อหวังบรรลุเป้าหมายทางการเมืองให้ตัวเองแล้ว ผมขอเสนอให้นักการเมืองออสเตรเลียบางคนเอาเวลามาตอบข้อวิตกกังวลของผู้คนในประเทศและต่างประเทศอย่างซื่อสัตย์จะดีกว่า” โฆษกหวัง เตือนสติ
เขาระบุด้วยว่า บรรดาชาติหมู่เกาะในภูมิภาคแปซิฟิกใต้อยู่ไกลเกินกว่าจะเป็นสนามหลังบ้านของสหรัฐฯ หรือออสเตรเลีย ชาติเหล่านี้มีอธิปไตยที่เป็นอิสระ การปลูกฝังลัทธิมอนโรของสหรัฐฯ ในภูมิภาคนี้จึงไม่เวิร์ก
ทั้งนี้ การลงนามกรอบความตกลงความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างจีนกับหมู่เกาะโซโลมอน ทำให้สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรในภูมิภาคแปซิฟิกใต้ ซึ่งรวมทั้งออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ วิตกว่า จีนจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในภูมิภาคที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของชาติตนมาช้านาน
ขณะที่จีนยืนยันมาตลอดว่า จุดมุ่งหมายของกรอบความตกลงฉบับนี้มิได้มุ่งเป้าประสงค์ไปยังชาติที่ 3 ใดๆ ทั้งสิ้น แต่เพื่อช่วยเพิ่มขีดความสามารถของหมู่เกาะโซโลมอนในการรักษาความสงบสุขมั่นคงของประเทศ ทั้งในด้านการรักษาระเบียบของสังคม ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และการรับมือกับภัยธรรมชาติ
ข้อมูลจาก “FM refutes Australia’s repeated smear on China-Solomon Islands security pact” ในโกลบอลไทมส์
