รอยเตอร์ - อดีตรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมของจีน ซึ่งเคยโชว์ผลงานโดดเด่น กวาดล้างการทุจริตคอร์รัปชันของคนใหญ่คนโตในบ้านเมือง กลับตกเป็นผู้ต้องสงสัยเสียเอง ในคดีรับสินบนและบิดเบือนกฎหมาย เพื่อผลประโยชน์เข้าพกเข้าห่อ
ตามรายงานของสำนักข่าวซินหัว ซึ่งเป็นสื่อทางการจีนเมื่อวันพฤหัสฯ ที่ 21 เม.ย. นายฝู้ เจิ้งหวา วัย 67 ปี ดาวรุ่งพุ่งแรงของวงการยุติธรรม และการบังคับใช้กฎหมาย ถูกจับกุมตัวเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา และคดีของเขาได้ถูกส่งไปให้อัยการของรัฐพิจารณาสั่งฟ้องแล้ว
คณะกรรมาธิการตรวจสอบวินัยของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งเป็นหน่วยงานสูงสุดในการปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ เริ่มสอบสวนพฤติกรรมไม่ชอบมาพากลของมือปราบจอมเฮี้ยบผู้นี้เมื่อปีที่แล้ว ทำให้เขาถูกขับออกจากการเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ โทษฐานละเมิดวินัยและกฎระเบียบของพรรค อนาคตหน้าที่การงานดับวูบทันที
สิ่งที่เกิดขึ้นกับนายฝู้ เป็นไปตามประกาศิตของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่ให้เริ่มการกวาดล้างการทุจริตคอร์รัปชันในทุกองคาพยพของวงการยุติธรรมและผู้พิทักษ์กฎหมายเมื่อปี 2563 เพื่อให้แน่ใจได้ว่าตำรวจ อัยการ และผู้พิพากษามีความสัตย์ซื่อมือสะอาด และเป็นที่เชื่อถือไว้วางใจของประชาชนได้อย่างแท้จริง
เส้นทางการงานของนายฝู้ รุ่งโรจน์มาตลอด โดยเขาได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพิทักษ์สันติราษฎร์ในปี 2556 และยังได้คุม “สำนักงาน610” ซึ่งเป็นหน่วยงานทุ่มเทการปราบปราม “ลัทธิชั่วร้าย” ตามที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนเรียกกัน รวมทั้งกวาดล้างลัทธิฝาหลุนกง
ต่อมา ในปี 2561 ได้คุมกระทรวงยุติธรรม เขาเป็นหัวหน้าทีมสอบสวนและกวาดล้างคดีทุจริตใหญ่ๆ หลายคดี รวมทั้งสร้างผลงานในการสืบสวนสอบสวนคดีคอร์รัปชันครั้งลือลั่นของบิ๊กฝ่ายความมั่นคง นายโจว หย่งคัง อดีตรัฐมนตรีกระทรวงพิทักษ์สันติราษฎร์ และหนึ่งในคณะกรรมการประจำของกรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งเป็นองค์กรที่มีอำนาจสูงสุดของพรรค
นายฝู้ เรียกสไตล์การทำงานของตัวเองว่า ต่อย “หมัดหนัก” ซึ่งสื่อมวลชนพากันยกย่องสรรเสริญว่า เป็นวิธีการทำงานที่ช่วยกำจัดการทุจริตคอร์รัปชันให้หมดไปจากสังคมจีน