สหรัฐฯ เปิดเกมเดือดกับจีน โดยมีข่าวแพร่สะพัดว่า บุคคลระดับประธานสภาผู้แทนราษฎรมะกัน จะไปเยือนไต้หวัน มันเป็นการลูบคมกันชัดๆ ซึ่งพญามังกรสัญญาว่า จะฟาดกลับไม่ยั้งด้วยมาตรการรุนแรงหนักหน่วง
สื่อหลายสำนัก เช่น Fuji News Network รายงาน โดยอ้างแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยว่า นางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ แฟนคลับไต้หวันตัวยง จะแวะไปกรุงไทเปในวันอาทิตย์ที่ 10 เม.ย. หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจเยือนญี่ปุ่นในช่วงสุดสัปดาห์นี้ แต่สำนักงานของนางเปโลซี และรัฐบาลไต้หวันมิได้ยืนยันข่าวดังกล่าว อีกทั้งโฆษกของนางเปโลซี แถลงล่าสุดว่า ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้เลื่อนการเดินทางเยือนญี่ปุ่น เนื่องจากมีผลตรวจว่าติดเชื้อโควิด-19 ทั้งๆ ที่นางเปโลซี ฉีดวัคซีนครบโดส รวมทั้งเข็มกระตุ้นภูมิคุ้มกัน
ช่วงเวลาการเยือนเกาะมังกรน้อยตามที่เป็นข่าว ประจวบเหมาะพอดีกับโอกาสครบรอบ 43 ปี ที่สหรัฐฯ ลงนามรับรองกฎหมายว่าด้วยความสัมพันธ์กับไต้หวัน ซึ่งส่งผลให้การดำเนินความสัมพันธ์อย่างไม่เป็นทางการระหว่าง 2 ฝ่าย เป็นสิ่งที่ชอบด้วยกฎหมาย
นักวิเคราะห์ของจีนมองเรื่องที่นางเปโลซี อาจมาไต้หวันว่า มีความเป็นไปได้อย่างมากที่พรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านของสหรัฐฯ จะพร้อมใจให้การสนับสนุนไต้หวัน และวอชิงตันกำลังเล่นของแข็งกับจีนในท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตรัสเซีย-ยูเครน
อย่างไรก็ตาม มีเสียงเตือนอย่างแข็งกร้าวจากนายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนเมื่อวานนี้ (7 เม.ย.) ให้สหรัฐฯ ยึดมั่นต่อ “นโยบายจีนเดียว” และปักกิ่งคัดค้านหัวชนฝาไม่ว่าสหรัฐฯ จะมีการเแลกเปลี่ยนกับไต้หวันในรูปแบบใดก็ตาม
นายจ้าว แถลงว่า ถ้านางเปโลซี ไปไต้หวันก็เท่ากับ “เป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของจีนอย่างร้ายแรง บ่อนทำลายรากฐานความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ อย่างสาหัส และเท่ากับเป็นการส่งสารที่ผิดๆ อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ให้กลุ่มคณะนักเคลื่อนไหวแบ่งแยกดินแดน ซึ่งสนับสนุนเอกราชของไต้หวัน”
ปักกิ่งยื่นคำขาดให้วอชิงตันยกเลิกแผนการเยือนไต้หวันของนางเปโลซีในทันที
“ถ้าสหรัฐฯ ยังดึงดัน จีนก็จะใช้มาตรการรุนแรงตอบโต้อย่างเด็ดขาด เพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของจีน โดยสหรัฐฯ จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมดต่อผลที่จะเกิดขึ้นตามมาจากการกระทำครั้งนี้ของสหรัฐฯ ด้วย”
เมื่อผู้สื่อข่าวซักถามกรณีนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ระบุเมื่อวันพุธ (6 เม.ย.) ว่า วอชิงตันพร้อมใช้เครื่องมือการคว่ำบาตรทั้งหมดที่มีอยู่กับจีน หากจีนใช้กำลังกับไต้หวัน
นายจ้าว ตอบว่า “ นี่เป็นเรื่องกิจการภายในนะครับ ประเทศไหนๆ ก็ไม่มีสิทธิมาก้าวก่ายทั้งนั้น”
ทางด้านนาง “โจแอน โอ้ว” โฆษกหญิงกระทรวงต่างประเทศไต้หวัน ไม่ยืนยันหรือปฏิเสธใดๆ ทั้งสิ้น เกี่ยวกับทริปของนางเปโลซี แต่เน้นว่า การเชิญเจ้าหน้าที่และบุคคลทรงเกียรติของสหรัฐฯ มาเยือนเกาะไต้หวัน เป็นภารกิจสำคัญอย่างหนึ่งของกระทรวงต่างประเทศไต้หวัน
ส่วนพรรคก๊กมินตั๋ง ของไต้หวัน ก็ทวีตข้อความแสดงการต้อนรับนางเปโลซี
รองประธานาธิบดีวิลเลียม ไหล ของไต้หวัน ซึ่งเคยพบกับนางเปโลซี ขณะเสร็จสิ้นการเยือนสหรัฐฯ และฮอนดูรัสเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา กล่าวยกย่องในทวิตเตอร์ว่า นางเปโลซี คือนักต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน และเป็นมิตรแท้ของไต้หวัน
ในสายตาของนักวิเคราะห์จีน การตอบโต้ของปักกิ่งครั้งนี้เป็นการเน้นย้ำถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ซึ่งเวลานี้ก็ตกต่ำสุดๆ ในรอบหลายทศวรรษอยู่แล้ว จากความเห็นไม่ลงรอยกันสารพัด ตั้งแต่ประเด็นฮ่องกง ภูมิภาคซินเจียง และทะเลจีนใต้ ไปจนถึงวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน
ทั้งนี้ ปักกิ่งถือว่าไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของจีน และอาจต้องใช้กำลังในการผนวกหากจำเป็น โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เคยกล่าวกับประธานาธิบดี โจ ไบเดนเมื่อเดือนที่แล้วว่า การจัดการที่ผิดพลาดในเรื่องไต้หวันจะกระทบกระเทือนต่อความสัมพันธ์ระหว่างกัน
นายจู เฝิง ผู้เชี่ยวชาญด้านกิจการระหว่างประเทศ ประจำมหาวิทยาลัยหนันจิง มองว่า ข่าวนางเปโลซี เป็นการป่วนจีนอย่างล้ำลึกของสหรัฐฯ ซึ่งทำให้สถานการณ์ข้ามช่องแคบทวีความตึงเครียด และนางเปโลซี จะมาเยือนไต้หวันก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจในยามนี้ เพราะสหรัฐฯ กำลังพยายามทำให้การแข่งขันระหว่างสหรัฐฯ กับจีนเป็น “สงครามระหว่างระบอบประชาธิปไตยกับเผด็จการ” ซึ่งสหรัฐฯ เชื่อว่าการที่จีนปฏิเสธประณามรัสเซีย กรณีปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครน จะยิ่งขับเน้นให้ชาวโลกเห็นความแตกต่างระหว่างสหรัฐฯ กับจีนอย่างชัดเจน
ข้อมูลจาก "Beijing warns of 'forceful measures' if Nancy Pelosi visits Taiwan" ในเซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์
"China warns US of 'consequences' if House Speaker Nancy Pelosi visits Taiwan" ใน NextShark
