xs
xsm
sm
md
lg

สงครามเทคโนโลยีสหรัฐฯ-จีน : มะกันเล็งตั้งก๊วนผลิตเซมิคอนดักเตอร์ บีบมังกรจนมุม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เครื่องหมายของบริษัทเอสเคไฮนิกซ์ที่สำนักงานใหญ่ในเขตซ็องนัม เกาหลีใต้ – ภาพเอพี
บิสซิเนสโคเรีย (BusinessKorea) สื่อเกาหลีใต้รายงานว่า สหรัฐฯ เคยชักชวนชาติเพื่อนซี้ในเอเชียอย่างเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และไต้หวัน จัดตั้งกลุ่มพันธมิตรอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ หวังเด็ดปีกอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีน ซึ่งเปรียบเหมือนลูกนกเพิ่งหัดบินอยู่ในตอนนี้

แต่รัฐบาลโซลยังไม่ตกปากรับคำเสียทีเดียว เหตุเพราะซัมซุงอิเล็กทรอนิสก์ และเอสเคไฮนิกซ์ (SK Hynix) บริษัทผู้ผลิตชิปยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ หอบเงินไปลงทุนสร้างโรงงานผลิตแห่งสำคัญในจีนหลายพันล้านดอลลาร์ จึงกลัวว่า ขืนเดินหน้าร่วมมือกันสกัดดาวรุ่ง ไม่แคล้วถูกเอาคืนแหงๆ

การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ทั่วโลกเกิดการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ หรือชิป ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี

มะกันจึงคิดหาทางลดการพึ่งพาจีนในด้านห่วงโซ่อุปทาน โดยเมื่อเดือน ก.ย.2563 ในสมัยรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์นั้น เจ้าหน้าที่มะกัน ไต้หวัน ญี่ปุ่น และสหภาพยุโรป เคยคุยกันเกี่ยวกับแนวคิดที่จะย้ายห่วงโซ่อุปทานจากจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งทุกอย่างมากระจุกกันอยู่ ตั้งแต่เรื่องวัตถุดิบ การผลิต และการขนส่ง

ไอเดียสร้างกลุ่มก๊วนเซมิคอนดักเตอร์ที่มีมะกันเป็นหัวเรือใหญ่ แต่ไร้เงาพญามังกร กลายเป็นเรื่องถกเถียงในสื่อสังคมออนไลน์ โดยชาวเน็ตแดนมังกรบางคนมองว่า ความเคลื่อนไหวเช่นนี้มีแต่จะผลักดันให้จีนยิ่งมุมานะพยายามอีกเป็น 2 เท่า เพื่อพึ่งพาตนเองด้านเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ให้จงได้ ขณะที่ชาวเน็ตอีกหลายคนคิดว่า การจับมือเป็นพันธมิตรเซมิคอนดักเตอร์ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะตลาดจีนใหญ่เกินกว่าที่บริษัทชิปของเกาหลีใต้หรือไต้หวันจะตีจาก

หากดูจากการแถลงของรัฐบาลมณฑลส่านซีเมื่อเดือน ก.พ. จะเห็นว่าบริษัทแดนโสมขาวทุ่มทุนอลังการงานสร้าง โดยบริษัทซัมซุงเริ่มโครงการผลิตชิปหน่วยความจำ NAND flash เฟสที่ 2 ในเมืองซีอานเมื่อปี 2564 ด้วยเงินลงทุนในโครงการถึง 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งรวมทั้งโรงงานผลิตวงจรบนแผ่นเวเฟอร์ 2 แห่ง โรงงานสำหรับการทดสอบและบรรจุภัณฑ์ 1 แห่ง ทำให้สามารถผลิต NAND flashได้มากกว่า 100 ละ 40 ของกำลังการผลิต NAND flash ทั้งหมดของซัมซุง

ส่วนเอสเคไฮนิกซ์ มีโรงงานผลิตวงจรบนแผ่นเวเฟอร์ DRAM อยู่ในเมืองอู๋ซี มณฑลเจียงซู รวมทั้งโรงงานทดสอบและบรรจุภัณฑ์ในเมืองฉงชิ่ง มณฑลเสฉวน โดยโรงงาน C2 ของเอสเคไฮนิกส์ ผลิตวงจรบนแผ่นเวเฟอร์ขนาด 12 นิ้วได้เป็นครั้งแรก ตั้งแต่ปี 2549 และยังเพิ่มเงินลงทุนขยายการผลิตอีก 780 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนั้น ชิปวงจรรวม (Integrated circuits - ICs) ยังเป็นสินค้าส่งออกอันดับหนึ่งของเกาหลีใต้ไปยังจีน ทำให้เกินดุลการค้าจีนด้าน ICs จำนวน 25,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2564 ซึ่งจากสถิติการค้าของกรมศุลกากรโสมขาว เป็นการเกินดุลเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าอีกด้วย

ข้อมูลจาก "US-China tech war : Washington said to eye chip alliance with Japan, South Korea, Taiwan to squeeze China" ในเซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์


กำลังโหลดความคิดเห็น