จีนกับออสเตรเลียเห็นทีจะกลับมาญาติดีกันยาก เมื่อทูตจากแดนมังกรใหม่ถอดด้าม ขอเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี สก็อต มอร์ริสัน แต่ถูกอีกฝ่ายปฏิเสธไมตรี
นักวิเคราะห์จีนมองว่า นายเสี่ยว เฉียน ซึ่งเข้ารับตำแหน่งเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงแคนเบอร์ราเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ยื่น “กิ่งมะกอก” แสดงความปรารถนาดีก็ด้วยความหวังว่า จะเจาะทะลวงแผ่นน้ำแข็งที่ขวางกั้นความสัมพันธ์ระหว่างชาติทั้งสอง แต่ “กิ่งมะกอก” หักสะบั้น เมื่อนายมอร์ริสันปิดประตูการสื่อสารดังปัง
ตามรายงานของสื่อออสซี่นั้น นายมอร์ริสันให้เหตุผลกับนักข่าวเมื่อวันเสาร์ (26 มี.ค.) ว่า การพบกับเอกอัครราชทูตจีนประจำออสเตรเลีย ในขณะที่ปักกิ่งยังคงแช่แข็งการทูตกับออสเตรเลีย จะไม่เป็นการเหมาะสม
“ตราบใดที่จีนยังคงปฏิเสธการเจรจากับรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีของออสเตรเลีย ผมคิดว่า ตอบโต้ไปแบบนี้สมน้ำสมเนื้อที่สุดแล้วล่ะ” เขาระบุ
แต่นายอี้ว์ เหลย หัวหน้านักวิจัยแห่งศูนย์วิจัยเพื่อประเทศเกาะในแปซิฟิกของมหาวิทยาลัยเหลียวเฉิง ในมณฑลซานตงเชื่อว่า การปฏิเสธให้ทูตจีนเข้าพบเป็นแค่กลอุบายอย่างหนึ่งของนายมอร์ริสัน ซึ่งต้องการแสดงให้พี่เบิ้มสหรัฐฯ เห็นว่า เขาต่อต้านจีนเสมอ เพราะนายมอร์ริสัน หวังให้ลูกพี่ช่วยให้เขาชนะการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งกำลังจะมีขึ้นในเร็วๆ นี้ เหมือนอย่างที่เคยให้การสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง จนได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว โดยจากผลสำรวจความเห็นของชาวออสเตรเลียระบุว่า คะแนนนิยมของนายมอร์ริสัน ตกต่ำ ท่ามกลางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งไม่เป็นที่น่าพอใจ และคาดกันว่า นายมอร์ริสัน อาจก้าวลงจากตำแหน่งก่อนการเลือกตั้งด้วยซ้ำ
การไม่ให้ทูตจีนเข้าพบยังเกิดขึ้น หลังจากสื่อตะวันตกประโคมข่าว “การรั่วไหลของร่างข้อตกลงด้านความมั่นคงระหว่างจีนกับหมู่เกาะโซโลมอน” ท่ามกลางข่าวลือแพร่สะพัดว่า ข้อตกลงฉบับนี้อาจปูทางไปสู่การสร้างฐานทัพเรือของจีนในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ ซึ่งออสเตรเลียและสหรัฐฯ ร้อนรุ่มกระวนกระวาย เนื่องจากประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิกคือ “สนามหลังบ้าน” ของออสเตรเลีย
จีนกับออสเตรเลียหมางใจกันด้วยข้อพิพาททางการเมืองหลายเรื่อง รวมทั้งปัญหาการค้า กลาโหม และการโจมตีไซเบอร์ จีนจึงตอบโต้ด้วยการคว่ำบาตรสินค้าจากออสเตรเลีย ซึ่งถูกขึ้นบัญชียาวเป็นหางว่าว นอกจากนั้น ปักกิ่งยังระงับการเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของออสเตรเลียกับผู้นำจีน ซึ่งยืดเยื้อมานาน 2 ปีจนถึงขณะนี้
แผนการสร้างฐานทัพเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ของออสเตรเลีย ตามข้อตกลงความมั่นคงออกัส (AUKUS) กับสหรัฐฯ และอังกฤษ ตลอดจนกรณีเรือรบแดนมังกรยิงแสงเลเซอร์ใส่เครื่องบินลาดตระเวนของออสเตรเลียเหนือทะเลอราฟูราเมื่อเดือน ก.พ. ทำให้ความสัมพันธ์ทวีตึงเครียด
ออสเตรเลียยังกล่าวหาผู้นำจีนให้การช่วยเหลือทางเศรษฐกิจแก่รัสเซีย และบ่อนทำลายความพยายามของชาติตะวันตกที่ต้องการโดดเดี่ยวการเงินของพญาหมีขาวในวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งกลายเป็นปมขัดแย้งล่าสุดระหว่างชาติทั้งสอง
ข้อมูลจาก “Morrison declines to meet new Chinese envoy, continues anti-China rhetoric to boost re-election bid” ในโกลบอลไทมส์
“China's ambassador is seeking friendship again but its Foreign Ministry still rails against Australia” ใน https://www.abc.net.au/