ปัจจุบัน อุตสาหกรรมเหล็กกล้าของจีนกำลังประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนรูปแบบที่ปล่อยมลพิษสูง มาเป็นการปล่อยมลพิษในระดับต่ำอย่างเป็นขั้นเป็นตอน กระทั่งช่วงปลายปี 2021 ผู้ประกอบการด้านเหล็กกล้า 23 รายทั่วประเทศจีน ได้ปรับรูปแบบอุตสาหกรรมให้ปล่อยมลพิษในระดับที่ต่ำมากอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งสามารถผลิตเหล็กกกล้าแบบปล่อยมลพิษในระดับต่ำได้มากถึง 145 ล้านตัน
หากไม่นับการผลิตไฟฟ้าโดยการเผาไหม้แล้ว อุตสาหกรรมเหล็กกล้า คือ อุตสาหกรรมที่ปล่อยมลพิษมากที่สุด มาตรฐานการปล่อยมลพิษในระดับต่ำของอุตสาหกรรมเหล็กกล้าของประเทศจีน กำหนดว่า จะต้องมีความเข้มข้นเฉลี่ยต่อชั่วโมงของอนุภาคซัลเฟอร์ไดออกไซด์และไนโตรเจนออกไซด์ที่ปล่อยออกมาในระหว่างกระบวนการผลิตไม่เกิน 10 35 และ 50 มก./ลบ.ม. เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเผยว่า มาตรฐานนี้ยังถือว่าเข้มงวดกว่ามาตรฐานในยุโรป สหรัฐฯ และญี่ปุ่นเลยทีเดียว
นอกจากนี้ ประเทศจีนยังได้สนับสนุนการใช้ขยะมูลฝอยจากอุตสาหกรรมแบบบูรณาการ เช่น เมืองถังซาน มณฑลเหอเป่ย กากแร่เหล็กที่เหลือจากกระบวนการหล่อเหล็กกล้าในโรงงานแห่งหนึ่ง จะถูกนำไปใช้เป็นวัสดุก่อสร้างในที่สุด
ที่นี่สามารถจัดการกับกากแร่เหล็ก ตะกรันเหล็กและขยะอุตสาหกรรมอื่นๆ ได้มากกว่า 3 ล้านตัน/ปี หลังจากผ่านการแปรรูปหลายขั้นตอนแล้ว ก็จะกลายเป็นผงแร่ที่ละเอียดมาก และจะถูกส่งไปยังโรงงานผลิตปูนซีเมนต์และสถานีผสมในปูนซีเมนต์ละแวกใกล้เคียง ช่วยลดการพึ่งพาทรัพยากรแร่ธาตุธรรมชาติในอุตสาหกรรมการก่อสร้างที่มีมาเป็นเวลานาน
ที่มา: China Media Group