เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ - ผู้นำสหรัฐฯ เตรียมเรียกค่าเสียหายจากจีน หากช่วยเหลือรัสเซียในศึกยูเครน แต่ผู้เชี่ยวชาญฝ่ายเดียวกันเตือนว่า มาตรการคว่ำบาตร ที่วอชิงตันเล็งเล่นงานปักกิ่งอาจให้ผลตรงกันข้ามกับที่ใจคิด โดยทำให้รัสเซียกับจีนมีความสนิทสนมกันมากขึ้น แต่อิทธิพลของเมกาในต่างแดนจะอ่อนแอลง
ในการให้ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญต่อคณะกรรมาธิการว่าด้วยการพิจารณาทบทวนเศรษฐกิจและความมั่นคงระหว่างสหรัฐฯกับจีน (US-China Economic and Security Review Commission) ซึ่งเป็นที่ปรึกษาคณะหนึ่งของรัฐบาลสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 2565 นั้น ผศ.เอมิลี ไมเออร์ดิง แห่งโรงเรียนบัณฑิตทหารเรือ เข้าชี้แจงว่า จีนไม่มีความมั่นคงด้านพลังงาน ซึ่งต้องพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันและก๊าซจากต่างชาติ ถ้าถูกคว่ำบาตร ก็จะทำให้ซื้อพลังงานได้ลำบาก
ปักกิ่งย่อมมองว่า การพยายามสกัดกั้นไม่ให้เข้าถึงแหล่งเชื้อเพลิงคือภัยคุกคามโดยตรงต่อความมั่นคงของจีน และจะหาทางหลีกเลี่ยง ซึ่งอาจเป็นในลักษณะการสร้างเครือข่ายการนำเข้า-ส่งออกน้ำมันกันเองในหมู่ชาติ ที่ถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตร จนเกิดเป็นระบบการค้าน้ำมันคู่ขนาน ซึ่งจะไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ อีกต่อไป
ในทางตรงกันข้าม เธอแนะนำว่า วอชิงตันควรมีส่วนร่วมอย่างสร้างสรรค์กับจีนในวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน โดยไม่คุกคามความมั่นคงด้านพลังงานแดนมังกร
ด้านนาย เอ็ดเวิร์ด โจว ผู้ช่วยอาวุโส ประจำโครงการความมั่นคงด้านพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ของศูนย์เพื่อการศึกษายุทธศาสตร์และการระหว่างประเทศ ในกรุงวอชิงตัน ดีซี. ระบุว่า แม้จีนกับรัสเซียมีผลประโยชน์ด้านพลังงานร่วมกัน แต่ก็เป็นไปในระยะสั้น โดยในระยะยาวจีนต้องหันไปสู่การใช้พลังงานสะอาด ซึ่งจะทำให้ถอยห่างจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลของรัสเซีย ดังนั้น สหรัฐฯจึงควรพยายามหาทางทำให้ชาติทั้งสองแยกห่างจากกันในด้านพลังงานให้มากๆ ดีกว่าการผลักดันให้มาใกล้ชิดกัน
ทั้งนี้ ทำเนียบขาวแถลงว่า ประธานาธิบดี โจ ไบเดน จะต่อสายพูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนในวันศุกร์ ที่ 18 มี.ค. 2565 ซึ่งนาย แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศระบุว่า เพื่อเตือนให้จีนทราบว่า สหรัฐฯ จะกำหนดค่าเสียหายเอากับจีน หากจีนให้การช่วยเหลือใด ๆ ก็ตามแก่รัสเซียในศึกยูเครน ที่กำลังร้อนแรงอยู่ในขณะนี้