กลุ่มสื่อจีนรายงาน (15 มี.ค.) สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในช่วงสองเดือนแรกของปีนั้น “ดีกว่าที่คาดไว้”
ยอดค้าปลีกเติบโตขึ้นร้อยละ 6.7 เทียบกับการเติบโตร้อยละ 1.7 ในเดือน ธ.ค. 64 โดยเป็นอัตราที่มากที่สุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย. 64 และเหนือความคาดหมายของรอยเตอร์ที่คาดว่าไว้ที่ร้อยละ 3.0 ในขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมเติบโตขึ้นร้อยละ 7.5 เทียบกับการเติบโตร้อยละ 4.3 ในเดือน ธ.ค. 64
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ยืนยันว่าจีนมีเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงกว่าร้อยละ 5.5 ในปี 2565 หลังจากที่เศรษฐกิจขยายตัวร้อยละ 8.1 ในปีที่แล้ว รวมถึงจะหาทางเลือกที่หลากหลายเพื่อรับมือความเสี่ยงของการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2565
“ข้อมูลชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจของจีนมีการเริ่มต้นที่ดีเกินคาด แต่การระบาดของไวรัสโควิด-19 และข้อจำกัดต่าง ๆ โดยเฉพาะการล็อกดาวน์ในเซินเจิ้น จะส่งผลกระทบต่อการบริโภคและทำให้ห่วงโซ่อุปทานหยุดชะงักในระยะเวลาอันใกล้” ทอมมี่ อู๋ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จีนของอ็อกซ์ฟอร์ด อีโคโนมิกส์ (Oxford Economics) กล่าว
“เราคาดว่านโยบายปลอดโควิด-19 และการชะลอตัวของอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่องจะยังคงส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ... เราคิดว่ารัฐบาลจะปรับแนวทางรับมือกับโอมิครอนที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว เพื่อลดผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของผู้คนและห่วงโซ่อุปทาน”
นักวิเคราะห์ประเมินว่า เศรษฐกิจของจีนคงได้รับผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน การค้าโลกที่ชะลอตัวลง รวมถึงราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งสูงขึ้น