กลุ่มสื่อจีนและเทศรายงาน รัฐบาลท้องถิ่นเซี่ยงไฮ้ ออกกฎคุมเข้ม ห้ามผู้เยาว์ศัลยกรรมเสริมความงามและสักลวดลาย โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2022 เป็นต้นไป หลังจากกระแสการทำศัลยกรรมและการสักลวดลายเป็นที่นิยมในหมู่ผู้เยาว์ สร้างความสนใจให้กับชาวเน็ตเป็นอย่างมาก
โดย รัฐบาลเซี่ยงไฮ้ ได้มีการแก้ไข กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้เยาว์แห่งนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งมีเนื้อหาส่วนหนึ่งระบุว่า “ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ห้ามทำศัลยกรรมเสริมความงาม หากไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ปกครอง และห้ามร้านสักลวดลายให้บริการแก่ผู้เยาว์ โดยเด็ดขาด”
เนื่องจากไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ กระแสค่านิยมการทำศัลยกรรมเสริมความงามในจีนกำลังบูม ในประเทศจีน โดยเฉพาะในหมู่นักเรียนมัธยมจำนวนมากที่นิยมการทำศัลยกรรม “ตาสองชั้น” เพื่อทำให้ตาดูโตมากยิ่งขึ้น สวยมากขึ้น
กระแสความนิยมดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงทัศนคติต่อการศัลยกรรมที่เปลี่ยนไปในจีน รวมทั้งยังทำให้ขนาดตลาดการทำศัลยกรรมของจีนมีมูลค่าสูงถึง 184 พันล้านหยวน (ประมาณ 920 พันล้านบาท)
ค่านิยมการศัลยกรรม ยังสร้างความกังวลใจให้กับรัฐบาลจีน โดยในเดือน เม.ย. 2020 ได้มีหนังสือเวียน เรียกร้องให้มีการออกข้อบังคับที่เข้มงวดมากขึ้นในภาคอุตสาหกรรมความงาม นอกจากนี้สิ่งสำคัญที่น่าเป็นกังวล คือ การที่มีสถาบัน หรือ คลินิกศัลยกรรมเสริมความงามจำนวนมาก ไม่ได้รับการรับรองทางกฎหมาย หรือ เป็นคลินิกศัลยกรรมเถื่อน ที่พยายามชักจูงผู้เยาว์และประชาชน ให้หันมาศัลยกรรม นำมาซึ่งความเสี่ยงอันตรายต่อผู้รับบริการ
“มันไม่เพียงแต่จะสร้างความสับสนในค่านิยมและการเห็นคุณค่าในตัวเอง แต่การศัลยกรรมยังก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมีสถาบันศัลยกรรมเสริมความงามหลายแห่งไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย” จู เวย รองศาสตราจารย์ จากมหาวิทยาลัยรัฐศาสตร์และกฎหมายแห่งประเทศจีนกล่าว
นอกจากนี้ ตามรายงานโดยบริษัท iResearch หนึ่งในบริษัทให้คำปรึกษาและให้บริการด้านข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภคในจีน เปิดเผยว่า ในปี 2019 ผู้ให้บริการด้านการศัลยกรรมที่ได้รับการจดทะเบียนอย่างถูกกฎหมายในประเทศจีน มีเพียงร้อยละ 14 เท่านั้น
ด้านสมาคมพลาสติกและความงามแห่งประเทศจีน (China Plastic and Beauty Association) ยังระบุอีกว่า ในปี 2020 ทางสมาคมได้รับคำร้องจากผู้ตกเป็นเหยื่อ จากการศัลกรรมเสริมความงาม จำนวนมากถึง 20,000 ราย
อย่างไรก็ตาม รองศาสตราจารย์ จู เวย ยังกล่าวอีกว่า ทางรัฐบาลเซี่ยงไฮ้ ไม่สามารถใช้กฎหมายห้ามศัลยกรรม กับทุกกรณี ควรมีการพิจารณาเป็นรายกรณี เช่น กรณีผู้เยาว์ป่วยเป็นโรคปากแหว่งเพดานโหว่ ก็ควรจะได้รับการศัลยกรรม
เช่นเดียวกันกับนครกว่างโจว (กวางโจว) มณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) ทางตอนใต้ของจีน หนึ่งในศูนย์กลางธุรกิจความงามของจีน มีการออกกฎหมายในลักษณะคล้ายคลึงกันนี้ เมื่อปี 2014 โดยระบุว่า ผู้เยาว์ควรหลีกเลี่ยงการทำศัลยกรรมเสริมความงาม เว้นแต่จะได้รับการยินยอม จากผู้ปกครองเป็นกรณีพิเศษเท่านั้น
สำหรับการสักลวดลาย หรือ ศิลปะบนเรือนร่าง ที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศจีน โดยเฉพาะในหมู่คนรุ่นใหม่ แต่ยังไม่เป็นที่ยอมรับของสังคมในวงกว้าง ก่อนหน้าทางรัฐบาลจีนได้ห้ามการสักลวดลายบนร่างกายของกลุ่มคนดัง เช่น นักแสดง นักร้อง รวมทั้งนักกีฬา ดังที่เป็นข่าวในเดือน ธ.ค. 2021 เมื่อนักฟุตบอลทีมชาติจีนถูกสั่งให้ปกปิดรอยสักระหว่างการแข่งขัน และห้ามนักฟุตบอลสักเพิ่มอย่างเด็ดขาด ส่วนผู้ที่สักไปแล้วก็ถูกสั่งให้ลบรอยสัก เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคม
ทั้งนี้ ประเทศจีนยังไม่มีการระบุอายุขั้นต่ำในการสักลวดลายอย่างชัดเจน ส่วนกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้เยาว์แห่งนครเซี่ยงไฮ้ที่มีการแก้ไขปรับปรุงใหม่นี้ ล้วนมีวัตถุประสงค์เพื่อการคุ้มครองและปกป้องผู้เยาว์ให้มีประสิทธิภาพและเข้มงวดมากยิ่งขึ้น
ที่มา: Shanghairestricts Chinese minors from cosmetic surgery and bans tattoos
整容、纹身、追星、打赏,统统管起来!新版《上海市未成年人保护条例》来啦!
"ศัลยกรรม-เสริมความงาม" เทรนด์สุดฮิตรุกตลาด "หนุ่มสาวมัธยมจีน"