‘หลู่ซวิ่นโดนถอด’ ไอดอลรุ่นใหม่บุกแบบเรียนจีน

ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคสมัย เด็กวัยรุ่นกับไอดอลก็แยกกันไม่ขาด แม้แต่บรรดาพ่อแม่เองก็มีดาราในดวงใจ บางครอบครัวก็สามารถใช้เวลาว่างร่วมกันได้ด้วยการดูซีรีส์ของนักแสดงคนโปรด

การที่เด็ก ๆ บ้าดาราอาจจะขัดใจพ่อแม่ไปบ้าง แต่การเป็นแฟนคลับอย่างมีสติอาจทำให้วัยรุ่นสามารถเรียนได้อย่างสนุกสนานมากขึ้น อย่างเช่นการใช้ชื่อศิลปินคนดังมาสอดแทรกในบทเรียนหรือแบบฝึกหัด เด็กนักเรียนที่กำลังตั้งอกตั้งใจทำการบ้านมาเห็นชื่อของไอดอลคนโปรด แค่นั้นก็ทำให้ใจพองฟูขึ้นได้


ถึงอย่างนั้นผู้ปกครองจำนวนไม่น้อยก็กังวลใจ และคิดว่าในแบบเรียนไม่ควรมีเนื้อหาเกี่ยวกับดารา ควรจะเอาเรื่องให้ความรู้มาสอดแทรกมากกว่า หนักกว่านั้นคือชื่อของคนที่มีชีวิตน่าศึกษากลับถูกลบทิ้งไป อย่างเช่น ‘ข่งอี๋จี่’ ชื่อตัวละครในเรื่องสั้น ‘ข่งอี๋จี่’ ของหลู่ซวิ่น นักประพันธ์ผู้ยิ่งใหญ่ของจีนในศตวรรษที่ 20 ที่เคยบรรจุไว้ในหลักสูตร ปัจจุบันก็ไม่มีแล้ว ทำเอาพ่อแม่สับสนไปหมด


ขณะที่ชื่อของ ‘ข่งอี๋จี่’ถูกถอด แต่ชื่อดารากลับโผล่ในหนังสือเรียนมากขึ้นเรื่อย ๆ วิชาที่มักจะสอดแทรกรูปหรือชื่อคนดังมากที่สุดคือวิชาภาษาอังกฤษ เช่น เซียวจ้าน (肖战) อู๋เหล่ย (吴磊) วง TFBOYS และอื่น ๆ แถมยังมีการเอาดารามาเป็นหัวข้อแบบฝึกหัด ถ้านักเรียนคนไหนเป็นแฟนคลับดาราคนนี้ก็คงจะทำได้สบาย ๆ แต่กับเด็กที่ไม่ได้ชอบดาราคงจะปวดหัวน่าดู


ชื่อของคนดังในแวดวงบันเทิงยุคปัจจุบันยังเห็นได้บ่อยในตัวเลือกข้อสอบปรนัยหรือเติมคำ แต่มักจะไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา แค่เอามาเป็นสีสันเฉย ๆ โดยที่ใจความสำคัญของข้อสอบยังสามารถวัดความรู้ของผู้เรียนได้เหมือนเดิม แต่ก็มีกรณีที่ใส่เข้ามาอย่างไม่สมเหตุสมผล เช่น ข้อสอบวิชาฟิสิกส์ม. 6 ข้อแรกถามว่าคนไหนหล่อที่สุด โดยมีตัวเลือกเป็นใบหน้าคนดัง 3 คนและคุณครูวิชาฟิสิกส์ เห็นได้ชัดว่าเป็นข้อแจกคะแนนที่ไม่เกี่ยวกับฟิสิกส์เลยแม้แต่น้อย


ยกตัวอย่างข้อสอบวิชาชีววิทยาชุดนี้ที่มีการเอาชื่อและรูปของไช่สี่ว์คุน (蔡徐坤) ตอนเล่นบาสเก็ตบอลมาประกอบ และให้วิเคราะห์ว่าระหว่างที่ไช่สี่ว์คุนเคลื่อนไหวร่างกาย มีกระบวนการอะไรเกิดขึ้นบ้างตามความรู้ที่ได้เรียนมา การทดสอบแบบนี้นอกจากจะวัดความเข้าใจของผู้เรียนได้จริง ยังกระตุ้นให้เด็กสนใจเรียนได้ด้วย


แต่ความไม่สบายใจของพ่อแม่ก็ยังอยู่ พวกเขาคิดว่าถ้าในแบบเรียนหรือแบบทดสอบมีหน้าดาราอยู่มากเกินไป จะยิ่งส่งเสริมพฤติกรรมบ้าดาราเข้าไปใหญ่ และอาจกระทบการเรียนของลูก ๆ หรือในกรณีที่มีชื่อคนดังปรากฏขึ้นมาในห้องเรียนที่อาจมีเด็กที่เป็นแฟนคลับหรือแอนตี้ดาราคนนี้ ถ้าขัดแย้งกันขึ้นมาก็สามารถส่งผลต่อความสัมพันธ์ของเพื่อนร่วมห้องเรียนได้


ดังนั้นการที่คุณครูจะใช้ดารามาประกอบการเรียนการสอนบ้างก็ไม่เป็นไร แต่ต้องคำนึงถึงความเหมาะสม และทำเพื่อการศึกษาของนักเรียนเป็นหลัก ส่วนเด็กในวัยเรียนเองก็ชอบคุยเรื่องดารากับเพื่อนเพื่อผ่อนคลายความเครียดอยู่แล้ว ถ้าเอาดาราที่ชอบมาเป็นแบบอย่างในการตั้งใจเรียนหรือใช้ชีวิต ก็น่าจะมีกำลังใจในการเรียนมากขึ้น ถ้าผู้ปกครองและครูคอยช่วยดูแลให้คำแนะนำ การติ่งดาราก็ไม่ใช่ปัญหาของแฟนคลับวัยเรียน

ที่มา:
《孔乙己》被移出课本，偶像明星却入驻教材，某些学生开心极了