กลุ่มสื่อต่างชาติรายงาน (23 ก.พ.) เมื่อไม่นานมานี้ เด็กหญิงวัย 4 ขวบในนครเซี่ยงไฮ้มีอาการปวดท้องและอาเจียนเป็นเลือดหลังจากที่กินลูกพลับแห้ง 6 ลูกขณะท้องว่าง
รายงานระบุว่า แพทย์ตรวจพบก้อนหินขนาดเท่าไข่ห่านในท้องของเด็กหญิง ซึ่งทำให้เกิดแผลขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 ซม. ส่งผลให้มีเลือดออกภายในท้อง
ศาสตราจารย์หวง อิ่ง ผู้อำนวยการแผนกระบบทางเดินอาหารของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งวินิจฉัยว่า สิ่งแปลกปลอมในท้องของเธอเป็นก้อนนิ่วขนาดใหญ่ในกระเพาะอาหาร ซึ่งเกิดจากการกินลูกพลับมากเกินไป โดยเมื่อกรดแทนนิกซึ่งเป็นสารเคมีในลูกพลับสัมผัสกับกรดในกระเพาะก็จะเปลี่ยนโปรตีนในผลไม้ให้กลายเป็นก้อนนิ่ว และเมื่ออยู่ในกระเพาะนานขึ้นก้อนนิ่วก็จะยิ่งแข็งตัวมากขึ้น
ศาสตราจารย์หวงฯ เปิดเผยว่า นิ่วในท้องของเธอมีความยาวมากกว่า 4 ซม. ซึ่งใหญ่เกินกว่าที่จะนำออกจากร่างกายด้วยตะกร้อคีบนิ่ว (Stone Retrieval Basket) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ในการรักษานิ่วชนิดหนึ่ง ในขณะที่ร่างกายของเด็กหญิงก็อาจจะไม่พร้อมที่จะเข้ารับการผ่าตัด
ในการนี้ ศาสตราจารย์หวงฯ แนะนำวิธีรักษาโดยการให้เด็กหญิงดื่ม “โคล่า” ทุกวันเพื่อทำให้นิ่วในกระเพาะนิ่มและละลาย ซึ่งไม่กี่วันต่อมา แพทย์ตรวจส่องกล้องตรวจพบว่าก้อนนิ่วนิ่มและหดตัวลง จนสามารถตัดก้อนนิ่วออกเป็นสองชิ้นแล้วนำออกจากร่างเด็กหญิงได้สำเร็จ
ทั้งนี้ ศาสตราจารย์หวงฯ กล่าวว่า การรักษานิ่วด้วยโคล่าสามารถใช้ได้เป็นรายกรณีเท่านั้น โดยผู้ป่วยควรปรึกษาแพทย์ก่อนดื่มโคล่าเพื่อรักษานิ่วในกระเพาะอาหาร