รอยเตอร์ – จีนร่างกฎระเบียบใหม่ สำหรับการขออนุญาตผลิตพืชปรับแต่งพันธุกรรม (gene-edited plants) ซึ่งจะกรุยทางไปสู่การพัฒนาปรับปรุงเมล็ดพันธุ์พืชให้ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
กระทรวงเกษตรและกิจการชนบทของจีนพิมพ์เผยแพร่กฎระเบียบดังกล่าวเมื่อวันจันทร์ ที่ 24 ม.ค. พร้อมกับมาตรการอื่น ๆ นับเป็นการยกเครื่องอุตสาหกรรมเมล็ดพันธุ์ครั้งใหญ่ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความมั่นคงด้านอาหารของชาติ โดยเมื่อเร็วนี้รัฐบาลปักกิ่งยังได้ให้การเห็นชอบกฎระเบียบใหม่ ซึ่งเป็นการเริ่มต้นแนวทาง ที่ชัดเจน ในการอนุมัติพืชดัดแปลงพันธุกรรม(GM) อีกด้วย
การปรับแต่งพันธุกรรมเป็นเทคโนโลยีใหม่ ที่มองกันว่า มีความเสี่ยงน้อยกว่าการดัดแปลงพันธุกรรม เพราะไม่มีการใส่ยีนภายนอกเพิ่มเข้ามาในพืช แต่นักวิทยาศาสตร์จะแก้ไข หรือปรับเปลี่ยนยีน ที่มีในพืชนั้นอยู่แล้ว เพื่อปรับปรุง หรือแก้ไข ให้พืชมีลักษณะอย่างที่ต้องการ เช่นให้ผลผลิตมากขึ้น หรือเพิ่มสารอาหาร
ความแม่นยำของเทคโนโลยีปรับแต่งพันธุกรรมทำให้มีความรวดเร็วกว่าการปรัปรุงพันธุ์พืชแบบปกติ หรือการดัดแปลงพันธุกรรม นอกจากนั้น ยังมีต้นทุนต่ำกว่าอีกด้วย
กฎระเบียบใหม่ ที่ร่างขึ้นนี้ มีความยุ่งยากน้อยกว่าในบางประเทศ โดยกำหนดให้พืชปรับแต่งพันธุกรรม ที่เสร็จสิ้นการทดลองนำร่องแล้ว สามารถยื่นคำขอหนังสือรับรองการผลิตได้เลย โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนการทดลองปลูกในไร่นา ซึ่งกินเวลานาน และเป็นข้อกำหนดสำหรับพืชดัดแปลงพันธุกรรม
นาย ฮั่น เกิงเฉิง ประธานบริษัทเมล็ดพันธุ์ “ออริจิน อะกริเทค” (Origin Agritech) ระบุว่า เป็นการเปิดประตูให้กับการขยายพันธุ์พืชอย่างแท้จริง และเป็นโอกาส ที่ไม่มีขอบเขตสิ้นสุด สำหรับการปรับปรุงพันธุ์พืชได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
บรรดาผู้นำจีนประกาศเมื่อปลายปีพ.ศ. 2563 ว่า จีนจำเป็นต้องใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อ “พลิกพื้น” อุตสาหกรรมเมล็ดพืชอย่างเร่งด่วน ซึ่งที่ผ่านมาต้องพยายามต่อสู้กับภาวะกำลังการผลิตส่วนเกิน และการขาดนวัตกรรมใหม่ ๆ โดยคาดกันว่า รัฐบาลปักกิ่งจะอนุมัติให้มีการปลูกข้าวโพดGM อย่างเร็วสุดในปีนี้ และอาจมีการส่งเสริมการปลูกพืชปรับแต่งพันธุกรรมในอีกไม่ช้าด้วยเช่นกัน
ราโบบังก์ (Rabobank) ผู้นำด้านธนาคารเพื่อการเกษตรและอาหารของเนเธอร์แลนด์ ระบุในรายงานเมื่อเร็ว ๆนี้ว่า สถาบันวิจัยต่าง ๆ ของจีน มีการพิมพ์เผยแพร่งานวิจัย เกี่ยวกับพืชปรับแต่งพันธุกรรม ที่มุ่งเน้นการตลาด มากกว่าชาติอื่น ๆ และรัฐบาลจีนให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ จึงคาดว่า จะมีการออกนโยบาย ที่เปิดกว้างในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าต่อไป