เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์/ เอพี – นักวิทยาศาสตร์แดนมังกรอ้างความเหนือชั้นสหรัฐฯ พัฒนาขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง ซึ่งติดเซ็นเซอร์ตรวจจับความร้อน ที่มีเทคโนโลยีทันสมัยล้ำหน้าอีกฝ่าย แม้แต่เครื่องบินล่องหน เจอเซ็นเซอร์ของจีนยังสิ้นเขี้ยวเล็บ
จีนประกาศความก้าวหน้าครั้งสำคัญ ในการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการทหาร เมื่อคณะนักวิจัยของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีการป้องกันแห่งชาติ เปิดเผยว่า พวกเขาสามารถพัฒนาขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง หรือไฮเปอร์โซนิกมิสไซล์ รุ่นใหม่ ซึ่งติดเซ็นเซอร์อินฟราเรด ที่มีความก้าวล้ำด้านเทคโนโลยี ซึ่งกองทัพสหรัฐฯ อาจยังไม่มีจนกว่าจะถึงปี 2568
ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงรุ่นใหม่นี้ สามารถตรวจจับความร้อนจากคลื่นรังสีอินฟราเรดของวัตถุเป้าหมาย ที่ค้นหาได้ แม้วัตถุเป้าหมายกำลังบินในระดับต่ำ ซึ่งอากาศมีความหนาแน่นมากขึ้นก็ตาม โดยขีปนาวุธจะล็อกเป้าและโจมตีในทันทีด้วยความเร็วและความแม่นยำอย่างชนิดที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน ไม่พลาดแม้แต่เครื่องบินสเตลท์ ซึ่งมีความสามารถในการอำพรางตัว รวมไปถึงการโจมตีเรือบรรทุกเครื่องบิน หรือ ยานพาหนะ ที่กำลังแล่นบนถนน
คณะนักวิจัยของจีนระบุว่า สหรัฐฯ ใช้เทคโนโลยีเซ็นเซอร์อินฟราเรดความเร็วสูง ในระบบป้องกันขีปนาวุธ เช่น ระบบ THAAD แต่เซ็นเซอร์ตรวจจับความร้อนของสหรัฐฯ สามารถทำงานได้เฉพาะกับวัตถุเป้าหมาย ที่กำลังบินในระดับสูง ซึ่งเป็นบริเวณที่มีอากาศเบาบางเท่านั้น
มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า การตรวจจับความร้อน ขณะใช้ระดับความเร็วเหนือเสียง เป็นสิ่งที่ทำได้ยาก เนื่องจากความเร็วในการเคลื่อนที่ของขีปนาวุธเองจะก่อให้เกิดความร้อนแผ่ออกมา ซึ่งจะรบกวนการทำงานของระบบตรวจจับได้
อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์ อี้ ซือเหอ นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของจีน ระบุในรายงาน ซึ่งตีพิมพ์ ในวารสาร “การป้องกันทางอากาศและอวกาศ” ของจีนเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า จีนมีการค้นพบองค์ความรู้หลักทางด้านเทคโนโลยีมาเป็นลำดับ ซึ่งผ่านการทดสอบและพิสูจน์แล้วว่า มีประสิทธิภาพ
ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเซ็นเซอร์อินฟราเรด ที่จีนค้นพบ ยังรวมถึงการพัฒนากลไกของเซ็นเซอร์อินฟราเรด ที่สามารถระบายความร้อนให้กับตัวเซ็นเซอร์ จากปกติ ที่จะเกิดรอยร้าว เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น
การพัฒนาขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจจับความร้อน ที่มีเทคโนโลยีล้ำหน้าสหรัฐฯ อาจทำให้โฉมหน้าการรบด้วยยุทธวิธีแบบเดิม เปลี่ยนแปลงไป และบ่งบอกนัยสำคัญถึงการแข่งขันกันด้านอาวุธของชาติมหาอำนาจทั้งสอง หลังจากเมื่อ 4 เดือนก่อน รัฐบาลปักกิ่งเพิ่งออกมาปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่าจีนมีการทดสอบขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง ซึ่งสามารถติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ได้