ณ วันสุดท้ายแห่งปี มาย้อนมองความเป็นไป เรื่องราวต่างๆมากมายก่ายกองที่เกิดขึ้นตลอดปีที่ผ่านมา สำหรับ มุมจีน ที่ได้ติดตามและนำเสนอข่าวความเป็นไปในประเทศจีน ขอคัดเลือกประเด็นข่าวที่มีนัยยะสำคัญต่ออนาคตของแผ่นดินใหญ่ ในสิบข่าวนี้ มุมจีน มองว่ามีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
1. มหากาพย์กวาดล้างวัฒนธรรมเซเลบเป็นพิษเป็นภัยต่อสังคม และพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของเหล่าแฟนคลับ จีนลงดาบฟันไม่เลี้ยงกลุ่มคนเด่นคนดัง ทั้งกลุ่มนักแสดงชื่อดัง ไอดอล อินฟลูเอนเซอร์ ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ศีลธรรมเสื่อมทราม และทำผิดกฎหมายโดยตกเป็นข่าวฮือฮาไม่เว้นเดือน เหล่าดาราดังในแวดวงบันเทิงจีนที่ถูกลงโทษและคว่ำบาตรโดยการลบชื่อ และถอดผลงานออกจากโลกออนไลน์โดยหลายคนไม่สามารถกลับเข้าวงการตลอดชีพ เจิ้งส่วง ถูกปรับ 299 ล้านหยวน หรือกว่า 1.5 พันล้านบาท ฐานเลี่ยงภาษีและพฤติกรรมไม่เหมาะสม, จางเจ๋อฮั่นถูกแบนจากความผิด “ลบหลู่จีน” จากเหตุไปเยือนศาลเจ้ายาสุคุนิที่สถิตวิญญาณทหารญี่ปุ่น, เจ้าเวย ถูกแบนจากความผิดลบหลู่จีนกรณีสวมชุดลายธงประจำกองทัพญี่ปุ่นถ่ายแฟชั่น, คริส หวู ถูกดำเนินคดีข่มขืน เป็นต้น และลงดาบส่งท้ายปี โดยสั่งปรับเจ้าแม่ไลฟ์สด เวยย่า เป็นเงิน 1,340 ล้านหยวน หรือกว่า 7 พันล้านบาท โทษฐานหลบเลี่ยงการชำระภาษี พร้อมระงับบัญชีไลฟ์บนแพลตฟอร์มรายใหญ่ เถาเป่า เวยปั๋ว โต่วอิน เป็นต้น
กลุ่มแฟนคลับที่ส่วนใหญ่เป็นเยาวชน ก็เป็นเป้าหมายใหญ่ของงานกวาดล้างความวุ่นวายในภาคสังคมและวัฒนธรรม ความคลั่งไคล้ดาราหรือไอดอลของกลุ่มแฟนคลับได้ชักนำให้เกิดพฤติกรรมผิดเพี้ยนและการกระทำเกินขอบเขตที่น่าตกใจ เช่น ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ทะเลาะวิวาท ฯลฯ จีนได้จัด 10 มาตรการเพื่อสกัดปรากฏการณ์วุ่นวายในหมู่แฟนคลับ เช่น ยกเลิกชาร์ตการจัดอันดับความนิยมของศิลปินดารา ควบคุมต้นสังกัดของศิลปินดารารวมถึงสตูดิโอส่วนตัวอย่างเข้มงวด จัดการรูปแบบของรายการวาไรตี้ออนไลน์ใหม่
2. การระบาดใหญ่โควิด-19 แม้จีนใช้นโยบาย “ความอดทนเป็นศูนย์ต่อการการระบาดโควิด-19” ทว่า เชื้อโควิด-19 ก็โผล่มาระบาดใหญ่เป็นระลอกๆ ได้แก่ เดือนมิ.ย. เกิดการระบาดใหญ่ที่มณฑลกว่างตง เดือนก.ค. ที่เมืองหนันจิง พร้อมกับก่อการติดเชื้อแบบลูกโซ่ไปยังเมืองท่องเที่ยวดัง จางจยาเจี้ย และเมืองต่างๆกว่า 15 มณฑล, เดือน ก.ย.ที่มณฑลฝูเจี้ยนโดยมีเด็กเล็ก-วัยรุ่นจำนวนมากติดเชื้อฯ, เดือนธ.ค.ที่เมืองซีอัน แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม จนถึงขณะนี้ซึ่งเป็นช่วงใกล้เปิด ‘โอลิมปิกฤดูหนาว 2022’ ที่ปักกิ่งในเดือนก.พ.
3. ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ ส่อเค้าล้ม สุดจะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกของพญามังกรในปีนี้ก็คือปัญหาหนี้สินบานเบรอะของกลุ่มบริษัทภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยมีบริษัท ไชน่า เอเวอร์แกรนด์ มีหนี้สินมากสุดถึง 1.97 ล้านล้านหยวน (ราว 10 ล้านล้านบาท หรือราว 3.56 แสนล้านดอลลาร์) ถือเป็นธุรกิจเอกชนที่มีหนี้มากที่สุดในโลก
หาก เอเวอร์แกรนด์ ล้ม จะส่งผลให้หลายฝ่ายล้มพังพาบไปด้วย โดยเฉพาะบรรดารัฐบาลท้องถิ่นที่มียักษ์ใหญ่อสังหาฯเป็นตัวทำเงินทำรายได้เข้าคลังรายได้ และกระพือความวุ่นวายในสังคม
4. ปรับใหญ่ อาลีบาบา ! ปีนี้จีนเล่นใหญ่ในปฏิบัติการปราบปรามการผูกขาดตลาดของกลุ่มธุรกิจรายใหญ่โดยเฉพาะภาคบริษัทเทคซึ่งบูมขึ้นมาในไม่กี่ปีนี้ อาทิ อาลีบาบา เทนเซนท์ ไป่ตู้ ถูกปรับกันระนาว การลงดาบที่เป็นข่าวเกรียวกราวที่สุดก็คือ กรณีการปรับ อาลีบาบา กรุ๊ป ของแจ๊ค หม่า 18.2 พันล้านหยวน หรือ 2.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยการปราบปรามการผูกขาดตลาดของธุรกิจรายใหญ่นี้ เป็นขั้นแรกของการบรรลุสู่ “ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน”
5. แบนโรงเรียนกวดวิชา ปฏิรูปใหญ่ภาคการศึกษา กระทรวงศึกษาจีนแถลงเมื่อวันที่ 8 ก.ย. ห้ามโรงเรียนกวดวิชาเอกชนหรือครูสอนพิเศษทางออนไลน์ รวมทั้งกวดวิชาในสถานที่ที่ไม่ได้จดทะเบียนอย่างเช่นตามอาคารที่พักอาศัย โรงแรม หรือคอฟฟี่ช็อป เนื่องจากสภาพการแข่งขันอย่างรุนแรงในระบบการศึกษาระดับสูงในจีน ครอบครัวที่มีเงินทุ่มไม่อั้นให้ลูกเรียนพิเศษ จนธุรกิจกวดวิชาเฟื่องฟูโกยรายได้มหาศาล การปฏิรูปการศึกษานี้เป็นส่วนหนึ่งของการลดความเหลือมล้ำในสังคม
6. นโยบายลูกสามคน พลิกนโยบายประชากรครั้งประวัติศาสตร์ จีนดำเนินนโยบายลูกคนเดียวมาร่วม 40 ปี และค่อยๆผ่อนปรนในไม่กี่ปีมานี้ ด้วยนับวันปัญหาอัตราเกิดลดลงยิ่งน่าห่วงและยังเข้าสู่สังคมผู้ชรา ปลายเดือน พ.ค.ปีนี้จีนประกาศ ‘นโยบายลูกสามคน’ พร้อมงัดมาตรากรต่างๆออกมาสนับสนุนครอบครัวที่มีลูกสามคน
7. ส่งภารกิจเซินโจว 13 เดินหน้าลิ่วๆ สร้างสถานีอวกาศจีน วันที่ 16 ต.ต. จีนส่งยานอวกาศเสินโจว 13 พร้อมนักบินอวกาศ 3 คน ได้แก่ ไจ๋จื้อกัง หวังย่าผิง และเย่กวงฟู่ ขึ้นไปปฏิบัติงานนานถึง 6 เดือนในโมดูลหลักของสถานีอวกาศจีนที่จะเปิดใช้อย่างเป็นทางการในปลายปี 2022
8. ฉลอง 100 ปี พรรคคอมมิวนิสต์ วันที่ 1 ก.ค. 2021 เป็นวันครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์ ซึ่งถือกำเนิดปี 1921 แม้ดูไม่เป็นข่าวฮือฮา แต่มีอะไรใหญ่อิทธิพลไปกว่านี้ในแดนมังกร
จากยุคเมื่อร้อยปีก่อนจีนถูกตราหน้าเป็น “คนป่วยแห่งเอเชีย” อดอยากยากจนเหลือแสน สู่วันที่พรรคคอมมิวนิสต์ครองแผ่นดิน พาจีนเข้าสู่ยุค “ลุกขึ้นยืน” ต่อมาก็เข้ายุค “มั่งคั่ง” และมาถึงยุค “แข็งแกร่ง”
สีจิ้นผิงกล่าวสุนทรพจน์สำคัญในพิธีเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีพรรคฯ "ประชาชนคือวีรบุรุษที่แท้จริง เพราะทุกคนคือผู้สร้างประวัติศาสตร์"
9. ชัยชนะใหญ่แห่งปี: เมิ่งหว่านโจวกลับบ้าน เมิ่ง หว่านโจว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัทหัวเหวย ( Huawei) เดินทางกลับบ้านมาตุภูมิเมื่อวันที่ 25 ก.ย. เมิ่งถูกกักบริเวณในบ้านเกือบสามปีในแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดาหลังจากที่เธอถูกจับกุมตัวที่ท่าอากาศยานนานาชาติแวนคูเวอร์เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.2018 โดยการจับกุมนี้เป็นไปตามหมายจับของสหรัฐฯในข้อกล่าวหาฉ้อโกงธนาคาร ชี้นำธนาคารเอชเอสบีซี ในทางที่ผิดเกี่ยวกับธุรกรรมของหัวเหวยในอิหร่าน เป็นเหตุให้เอชเอสบีซี ละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ
จีนจัดพิธีต้อนรับเมิ่งกลับบ้านแบบเต็มเกียรติยศเยี่ยงวีรสตรี เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะยิ่งใหญ่แห่งยุคฟื้นฟูใหม่ ของประเทศจีน
10. ปิดสื่อโปรประชาธิปไตยในฮ่องกง ปีนี้จีนยังไม่ลดราวาศอกขจัดปฏิปักษ์การเมืองในฮ่องกงที่อาจเป็นภัยความมั่นคงดินแดน โดยปิดสื่อรายใหญ่ที่สนับสนุนประชาธิปไตย ในเดือน มิ.ย. หนังสือพิมพ์ Apple Daily ต้องปิดตัวหลังถูกตำรวจค้นในข้อหา “สมรู้ร่วมคิดกับต่างชาติก่ออันตรายต่อความมั่นคงของชาติ" ก่อนหน้านั้นได้มีการจับกุมเจ้าพ่อสื่อฮ่องกง จิมมี ไล ซึ่งเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์แอปเปิล เดลี
วันที่ 29 ธ.ค. สื่อสนับสนุนประชาธิปไตยอีกรายคือ Stand News ก็ปิดตัวลงหลังจากที่ตำรวจบุกค้นและจับกุมบรรณาธิการอาวุโส ด้วยข้อหาเผยแพร่สื่อปลุกระดม