ในหนึ่งปีมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายไม่เว้นแม้แต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องขำขันชวนหัว หรือเรื่องเครียดจริงจัง ข่าวที่อ่านแล้วเกิดแรงบันดาลใจ หรือข่าวสำคัญที่ใคร ๆ ก็ต้องรู้ เราไม่พลาดที่จะนำเสนอเรื่องต่าง ๆ ให้ทุกท่านได้ติดตาม ในวันนี้ทางโต๊ะจีนจึงขอรวบรวม 10 ข่าวจีนอันน่าจดจำมาให้ทุก ๆ คนได้ย้อนระลึกถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านมาในปีนี้ ก่อนจะก้าวข้ามสู่ปี 2022 อย่างสมบูรณ์
อันดับ 10 สาวจีนหาหมอเพราะเจ็บข้อเท้า แต่กลับค้นพบเรื่องสุดช็อคว่าตัวเองเกิดมาเป็นผู้ชาย
แค่อาการเจ็บข้อเท้าก็สามารถเปลี่ยนชีวิตคนคนหนึ่งไปได้ในพริบตา เมื่อผลเอ็กซเรย์เผยให้เห็นว่ากระดูกของผู้หญิงคนนี้ยังไม่ได้พัฒนาอย่างเต็มที่ เมื่อได้รับการตรวจร่างกายเพิ่มเติม ความจริงจึงประจักษ์ว่าสาเหตุที่ผู้หญิงคนนี้พยายามมีลูกมาเป็นปีแต่ไม่สำเร็จนั้น เป็นเพราะเธอเกิดมาพร้อมภาวะเพศกำกวม อวัยวะสืบพันธุ์ของเธอจึงไม่มีลักษณะชายหรือหญิงชัดเจน
หญิงคนนี้ไม่เคยมีประจำเดือนมาก่อนในชีวิต แต่อวัยวะเพศภายนอกมีลักษณะเป็นหญิง แพทย์ที่เคยรักษาเธอจึงสันนิษฐานว่าอาจจะแค่ “โตช้า” พอโตเป็นผู้ใหญ่ เธอก็รู้สึกว่าการไม่มีประจำเดือนเป็นเรื่องน่าอาย เลยไม่คิดจะหาคำตอบให้ร่างกายตัวเอง จนได้มารู้ความจริงก็คราวนี้
อันดับ 9 อายแทน! นักท่องเที่ยวสุดห่ามแผลงฤทธิ์ที่ซีอานและวัดเส้าหลิน
นักท่องเที่ยวจีนออกเดินทางภายใต้มาตรการควบคุมโควิดของรัฐบาล ในช่วงวันหยุดเราจึงเห็นทัวร์ในประเทศหลั่งไหลไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญทั่วแดนมังกร แน่นอนว่ามากคนก็มากความ แต่บางคนดูจะล้ำเส้นเกินไปแล้ว
คลิปวิดีโอมากมายผุดขึ้นบนโลกออนไลน์ช่วงหยุดวันแรงงาน เผยให้เห็นพฤติกรรมสุดอึ้งของนักท่องเที่ยวมือบอนที่พยายามจะขูดกำแพงเก่าแก่ในเมืองซีอาน หรือที่วัดเส้าหลินก็มีเด็กวาดรูปบนแผ่นไม้โบราณ และต้นไผ่พริ้วลมที่คอยเสริมบรรยากาศสงบร่มรื่นรอบวัดก็ถูกแกะสลักด้วยคำว่า “...มาเยือน”
อันดับ 8 แอร์โฮสเตสสั่นต้านลมหนาวข้างถนน
เมื่อเดือนต.ค. ที่ผ่านมา มีผู้โดยสารบังเอิญไปเห็นแอร์โฮสเตสสายการบินไห่หนานนั่งขดตัวเพื่อต้านความหนาวอยู่ริมถนนเพื่อรอรถประจำทาง ผู้โดยสารคนนั้นจึงจัดการถ่ายภาพแล้วส่งให้หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการร่วมของบริษัท
หลังจัดการประชุมและตรวจสอบจึงพบว่าสายการบินไห่หนานไม่ได้ประกาศให้พนักงานเปลี่ยนเครื่องแบบฤดูร้อนเป็นฤดูหนาว ซึ่งขัดกับความเป็นจริงที่ปีนี้หน้าหนาวมาเร็วกว่าปกติ จนเกิดภาพที่แอร์โฮสเตสในเครื่องแบบฤดูร้อนต้องนั่งขดหลบลมเช่นนี้ จึงเกิดการลงโทษให้กลุ่มผู้บริหารระดับสูงมายืนตากลมหน้าสนามบินปักกิ่งบ้าง จะได้เข้าใจและเห็นใจกับปัญหาของพนักงานใต้บังคับบัญชา
อันดับ 7 สามีผลักภรรยาตกผาที่ไทยจนแท้ง บาดเจ็บสาหัส
ความรุนแรงในครอบครัวจีนเป็นเรื่องที่พบเห็นได้เสมอตามหน้าข่าว เหตุการณ์ที่ได้รับการรายงานจากสื่อจะช่วยเพิ่มความรู้ความเข้าใจในประเด็นนี้ให้กับคนในสังคม และยังเป็นการเพิ่มความกล้าให้กับผู้หญิงที่ถูกกระทำแบบเดียวกันออกมาส่งเสียงเพื่อตัวเอง
หนึ่งในประเด็นฉาวเกิดขึ้นที่ประเทศไทยในปี 2019 เมื่อสามีคนหนึ่งผลักภรรยาตกหน้าผาตอนที่มาเที่ยววันหยุดด้วยกัน เกือบสองปีต่อมาภรรยารอดตายปาฏิหาริย์ แต่ระหว่างนั้นก็ต้องผ่านการบำบัดและผ่าตัดนับครั้งไม่ถ้วน
อันดับ 6 แม่ชาวจีนจ่ายเงินแสนดอลลาร์เพื่อลูกเจ็ดคน
หนึ่งในปัญหาใหญ่ที่จีนต้องเผชิญคือวิกฤตประชากรขาดแคลน เพราะคนส่วนใหญ่เลือกจะไม่มีลูก ซึ่งแนวโน้มนี้เกิดขึ้นเร็วกว่าที่ผู้เชี่ยวชาญคาดไว้หลายปี
แต่คุณแม่คนหนึ่งสวนกระแสเทรนด์ไม่นิยมมีลูก เธอต้องจ่ายค่าปรับนับ 1.5 แสนดอลลาร์เพื่อให้มีลูกได้เจ็ดคนภายใต้นโยบายลูกสองคนของจีน ซึ่งปัจจุบันเพิ่มขึ้นเป็นลูกสามคน
คุณแม่คนนี้เป็นนักธุรกิจที่อยากมีครอบครัวใหญ่จนยอมจ่ายราคาสูงลิ่วเพื่อทำความฝันให้เป็นจริง เหตุผลที่มีลูกมากถึงเจ็ดคนไม่ใช่เพราะอยากได้แต่ลูกชายจนต้องมีลูกเรื่อย ๆ แต่เธอกับสามีชอบความคึกคักของครอบครัวใหญ่และคิดว่าลูกเจ็ดคนเป็นจำนวนที่สมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับเธอ
อันดับ 5 ครอบครัวของดาวรุ่งโอลิมปิกปฏิเสธเงินรางวัล
หากจะพูดถึงนักกีฬาในดวงใจคนจีนจากโตเกียวโอลิมปิกที่ผ่านมา หนึ่งในนั้นต้องมี ฉวนหงฉาน (全红婵) นักกีฬากระโดดน้ำวัย 14 ปี เจ้าของเหรียญทองรายการแข่งขันกระโดดน้ำจากความสูง 10 เมตร
นอกจากบทบาทนักกีฬาทีมชาติแล้ว ฉวนหงฉานยังเป็นเด็กวัยรุ่นที่มีเรื่องราวน่าสนใจ พ่อของเธอเป็นเกษตรกรปลูกส้ม ส่วนแม่ของเธอป่วยเพราะประสบอุบัติเหตุ เหล่าสปอนเซอร์จึงหลั่งไหลไปยังบ้านเกิดของฉวนหงฉาน พร้อมเสนอเงินรางวัลและบ้านหลังใหม่ที่จะช่วยสนับสนุนครอบครัวฉวน นอกจากนี้ยังมีสปอนเซอร์ต้องการจะมอบตั๋วสวนสนุก บัตรผ่านสวนสัตว์ ที่พักรีสอร์ท ขนมล่าเถียวของโปรดของหงฉานให้ฟรีตลอดชีพ พ่อของเธอขอแสดงความขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติ แต่เขาจะไม่ขอรับเงินใด ๆ แม้แต่แดงเดียว
อันดับ 4 บัณฑิตมหาลัยดังจบมาเป็นพี่เลี้ยงเด็ก
โดยทั่วไป การจบจากมหาวิทยาลัยระดับต้นของประเทศมักเป็นเครื่องการันตีถึงงานดีเงินเดือนเด่นที่รออยู่นอกรั้วสถาบัน แต่สำหรับผู้หญิงคนนี้ เธอกลับได้มาทำงานเป็นแม่บ้านกินนอน ทั้ง ๆ ที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัยชิงหวา หลายคนถึงกับตกใจว่าการหางานในจีนนั้นดุเดือดและยากเย็นถึงขนาดศิษย์เก่าชิงหัวยังสู้ไม่ได้เลยหรือ
จริง ๆ แล้วผู้หญิงคนนี้ได้เงินดีมาก เพราะจากประวัติการศึกษาที่ค่อนข้างสูง นั่นหมายความว่าเอเจนซีที่จ้างเธอย่อมต้องเป็นบริการสำหรับลูกค้าคนพิเศษ ผู้หญิงคนนี้ได้เงินเดือนเดือนละ 35,000 หยวน ในขณะที่เงินเดือนเฉลี่ยในปักกิ่งอยู่ที่เดือนละ 12,500 หยวน
อันดับ 3 หลัวซือเฝิ่น อาหารจานเส้นเหม็นเกินบรรยาย
อาหารบางอย่างมีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถทำให้คนชอบหรือไม่ก็เกลียด ไม่มีตรงกลาง หลัวซือเฝิ่น อาหารจากตอนใต้ของจีนก็เป็นหนึ่งในนั้น แปลตรงตัวว่า “เส้นหมี่หอยขม” มีจุดเด่นอยู่ที่กลิ่นรัญจวนใจ ซึ่งอาจทำให้คนน้ำลายสอหรือเบี่ยงหน้าหนีก็ได้ทั้งนั้น
หลัวซือเฝิ่นเพิ่งจะเป็นที่รู้จักแพร่หลายช่วงสิบปีมานี้ อาหารดังกล่าวประกอบขึ้นจากเส้นหมี่ที่ทำจากข้าว ผสานกับน้ำซุปที่เคี่ยวจากหอยขม เนื้อหมูหรือวัว และหน่อไม้ดอง นอกจากนี้อาจมีการใส่ถั่วลิสง ดอกไม้จีน เห็ดหูหนู หัวไชเท้า และผักใบเขียวเพิ่มเติม
คนมักคิดว่ากลิ่นเอกลักษณ์ของหลัวซือเฝิ่นเกิดจากซุปหอยขม แต่จริง ๆ แล้วมาจากการหมักของหน่อไม้ดองต่างหาก
อันดับ 2 ชาวเน็ตอึ้ง โชว์รูดเสากลางงานแต่ง
อีกคลิปที่แพร่ไปทั่วอินเทอร์เน็ตจีนคือวิดีโองานแต่งที่ดูห่ามและปลุกเร้าเกินกว่าจะเป็นงานเชื่อมความสัมพันธ์ของคู่ชีวิต ในงานมีการเต้นรูดเสาอย่างยั่วยวนผิดกับบรรยากาศงานแต่งทั่วไป จนหลาย ๆ คนคิดว่านี่เป็นเรื่องไม่เหมาะไม่ควร
โชว์รูดเสาไม่ใช่เรื่องแปลกในสายตาคนจีน แต่ปกติแล้วจะจัดในงานศพแถวชนบทห่างไกลเพื่อดึงดูดให้คนมาร่วมงาน เจ้าของธุรกิจโชว์รูดเสาคนหนึ่งให้ความเห็นว่า เรื่องนี้ผิดที่ใส่ชุดโป๊ไปในงานแต่ง ถ้าพวกนักเต้นใส่ชุดมิดชิดขึ้นอาจจะไม่ก่อให้เกิดความปั่นป่วนในสังคมมากเท่านี้
อันดับ 1 ชาวเน็ตยัวะ! โชว์เต้นงานครบรอบมหาวิทยาลัยชิงหัว
ข่าวดราม่าอันดับหนึ่งปี 2021 ก็เป็นเรื่องการเต้นอีกแล้ว แต่ครั้งนี้เกิดขึ้นในงานครบรอบ 110 ปีมหาวิทยาลัยชิงหัว วิดีโอดังกล่าวเป็นคลิปนักศึกษาหญิงมหาวิทยาลัยชิงหัวทำการแสดงเต้นในชุดเดรสสีทองสั้นอย่างตั้งอกตั้งใจ ที่เรื่องนี้เป็นดราม่าเป็นเพราะคนวิจารณ์ว่าการแสดงนี้หยาบโลนและยั่วยวนเกินเหตุ
ชาวเน็ตส่วนใหญ่ชี้ว่า การแสดงชุดนี้ไม่ได้เป็นอย่างที่ถูกกล่าวหา พวกเธอเป็นแค่กลุ่มเด็กสาวที่พยายามจะเต้นกันสนุก ๆ ก็เท่านั้น ค่ายสื่อจีน The Paper กล่าวในบทความเห็นพิเศษว่า การกล่าวหาอย่างเกินเหตุนี้นำไปสู่ความรุนแรงทางออนไลน์ต่อผู้หญิง
ที่มา:
From sexy dancing to an Olympic hero: our top 10 stories about Chinese society and culture in 2021
