ปักกิ่ง (รอยเตอร์) - จีนให้สิทธิ์หญิงตั้งครรภ์เป็นผู้ตัดสินใจเลือกการผ่าตัดทำคลอด โดยที่สามีต้องเคารพการตัดสินใจของภรรยา นับเป็นการปลดโซ่ตรวน ที่พันธนาการหญิงแดนมังกรมาช้านานได้อีกหนึ่งเส้น
หนังสือพิมพ์ปักกิ่งนิวส์ กระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน รายงานเมื่อวันอังคาร ที่ 21 ธ.ค.ว่า คณะกรรมการประจำของสภาประชาชนแห่งชาติ ซึ่งเป็นองค์กรสูงสุดในการตรากฎหมาย มีการประชุมกันในสัปดาห์นี้ เพื่อพิจารณาร่างกฎหมายหลายฉบับ รวมทั้งร่างแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิและผลประโยชน์ของสตรี ซึ่งผ่านการลงมติเห็นชอบจากสภาครั้งแรกเมื่อปี 2535
เจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสังคมของสภาระบุว่า จำเป็นต้องมีการปรับปรุงกฎหมายฉบับนี้ให้ทันกับยุคสมัย ที่เศรษฐกิจและสังคมเจริญก้าวหน้ามากขึ้น ทำให้เกิดปัญหาใหม่ ๆ ตามมา แต่ขณะเดียวกันปัญหาเก่า ๆ บางเรื่องก็ไม่อาจแก้ไขได้ด้วยตัวบทกฎหมาย ที่มีอยู่เดิม
แม้กฎหมายคุ้มครองสิทธิและผลประโยชน์ของสตรี กำหนดให้ผู้หญิงมีสิทธิเท่าเทียมกับผู้ชายมากขึ้น ทว่าไม่สามารถนำมาใช้ได้ในชีวิตความเป็นจริงของสังคมม่านประเพณี ที่ยึดถือขนบธรรมเนียมประเพณีเป็นใหญ่
ปัจจุบัน โรงพยาบาลบนแดนมังกรสามารถผ่าตัดทำคลอดได้ก็ต่อเมื่อได้รับอนุญาตจากผู้เป็นสามี นอกจากนั้น ผู้หญิงจีนมักถูกบีบบังคับให้เลือก หรือตัดสินใจเรื่องการแต่งงาน มีลูก หรือการประกอบอาชีพ จากแรงกดดันของครอบครัว หรือจากเจ้าหน้าที่และหน่วยงานของรัฐ
ครอบครัวชาวจีนบางรายยังคงมีความเชื่อว่า การผ่าตัดทำคลอดจะทำให้ทารกบาดเจ็บ และกว่าผู้เป็นแม่จะฟื้นตัวก็ต้องใช้เวลานาน ซึ่งอาจทำให้มีลูกคนต่อไปล่าช้า
กฎระเบียบที่ให้สามีเป็นผู้มีอำนาจในการตัดสินใจให้ภรรยาผ่าตัดทำคลอดเคยก่อโศกนาฏกรรมมาแล้ว เมื่อหญิงตั้งครรภ์ผู้หนึ่งทนความเจ็บปวดไม่ไหว วิ่งไปกระโดดตึกโรงพยาบาลตาย เพราะสามีไม่อนุญาตให้ผ่าตัดทำคลอด เหตุการณ์เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งเมื่อปีพ.ศ. 2560
นอกจากนั้น การยกเลิกนโยบายลูกคนเดียว เมื่อปีพ.ศ. 2559 ของรัฐบาลจีน โดยอนุญาตให้มีลูกได้ 2 คน เพื่อแก้ปัญหาอัตราการเกิดต่ำ และการขาดแคลนประชากรวัยทำงาน ทำให้ผู้หญิงหลายคนวิตกกังวลว่า พวกเธออาจถูกบังคับให้แต่งงาน หรือต้องมีลูก 2 คน ทั้งที่อยากมีเพียงคนเดียว
ขณะนี้ยังไม่มีการเผยแพร่เนื้อหาของกฎหมายคุ้มครองสิทธิและผลประโยชน์ของสตรี ที่ได้รับการแก้ไขต่อสาธารณชน แต่สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีน รายงานว่า มีการตราบทบัญญัติ เพื่อสร้างความเท่าเทียมทางเพศในสถานที่ทำงาน และป้องกันการล่วงละเมิดทางเพศ บรรจุไว้ในกฎหมาย ที่ได้รับการแก้ไขนี้ด้วย