รอยเตอร์ - ความบาดหมางระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ร้อนแรงขึ้นทุกที เมื่อจีนไม่ยอมอดทนให้สหรัฐฯ คว่ำบาตรข้างเดียว กรณีถูกกล่าวหาละเมิดสิทธิมนุษยชนในภูมิภาคซินเจียง โดยสั่งแบนบุคคล ในคณะกรรมาธิการเสรีภาพด้านศาสนา ของสหรัฐฯ ตอบโต้
หลังจากรัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรบุคคล และหน่วยงานองค์กรในจีน ด้วยข้อกล่าวหาละเมิดสิทธิมนุษยชน ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ได้ไม่ถึง 2 สัปดาห์ กระทรวงต่างประเทศของจีนก็เอาคืน ด้วยการสั่งห้ามบุคคล 4 คน ในคณะกรรมาธิการเสรีภาพทางศาสนาระหว่างประเทศ ( USCIRF ) จากกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เดินทางเข้าจีน
โฆษกกระทรวงต่างประเทศแดนมังกร แถลงที่กรุงปักกิ่ง เมื่อวันอังคารที่ 21 ธ.ค. ว่า กรรมาธิการทั้ง 4 คน ถูกห้ามเดินทางเข้าจีนแผ่นดินใหญ่ , เขตบริหารพิเศษฮ่องกง และเขตบริหารพิเศษมาเก๊า นอกจากนั้น ทรัพย์สินของบุคคลเหล่านี้ ที่มีอยู่ในจีน จะถูกอายัด รวมทั้งห้ามองค์กร ตลอดจนพลเมืองของจีน ติดต่อยุ่งเกี่ยวด้วยอย่างเด็ดขาด
อย่างไรก็ตาม นาง นาดีน มาเอนซา ประธาน USCIRF ซึ่งเป็นคนหนึ่ง ที่ถูกแบนกล่าวว่า ไม่รู้สึกประหลาดใจต่อการคว่ำบาตรอย่างไร้เหตุผล ซึ่งรัฐบาลปักกิ่งนำมาใช้ตอบโต้กับข้อวิตกกังวล ที่นับวันจะเพิ่มขึ้น ในเรื่องที่จีนมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพทางศาสนาอย่างมโหฬาร
ทั้งนี้ USCIRF ทำหน้าที่พิจารณาตรวจสอบและประเมินสถานการณ์การละเมิดเสรีภาพทางศาสนา ในหมู่นานาประเทศ ตลอดจนให้คำแนะนำด้านนโยบายแก่ประธานาธิบดี, รัฐมนตรีต่างประเทศ และรัฐสภาของสหรัฐฯ
สหรัฐฯ ระบุว่า การคว่ำบาตรจีนเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ที่ผ่านมา ก็เพื่อเป็นการลงโทษ ที่ชาวอุยกูร์ และชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมอื่น ๆ ในซินเจียง ถูกคุมขังโดยมิชอบด้วยกฎหมาย อีกทั้งยังถูกทารุณ และถูกบังคับใช้แรงงาน
อย่างไรก็ตาม จีนปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด โดยระบุว่า การดำเนินนโยบายของจีนในซินเจียงมีส่วนช่วยในการต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธและพวกหัวรุนแรงสุดโต่ง