กลุ่มสื่อจีนรายงาน วันจันทร์ (6 ธ.ค.) มูลค่าหุ้นบริษัท “ไชน่า เอเวอร์แกรนด์” (China Evergrande Group) ลดลงร้อยละ 12 แตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปี หลังจากบริษัทฯ ไม่รับประกันว่าจะมีเงินทุนเพียงพอที่จะชำระหนี้
รายงานระบุว่า ระยะเวลาผ่อนผันการชำระหนี้จำนวน 82.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นเวลา 30 วัน จากวันที่ 6 พ.ย. ได้สิ้นสุดในวันจันทร์ (6 ธ.ค.)
ปัจจุบัน เอเวอร์แกรนด์ซึ่งเคยเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มียอดขายสูงสุดของจีน กำลังต่อสู้กับหนี้สินมากกว่า 3 แสนล้านสหรัฐ หรือราว 10 ล้านล้านบาท
บริษัทเอเวอร์แกรนด์พยายามขายทรัพย์สินเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ โดยในเดือน ก.ย. 64 บริษัทฯ ประกาศขายหุ้นธนาคารในนครเสิ่นหยางให้กับบริษัทบริหารสินทรัพย์ของรัฐ อย่างไรก็ดี เมื่อเดือน ต.ค. 64 ได้มีการประกาศยกเลิกการทำธุรกรรมดังกล่าว เนื่องจากสองฝ่ายไม่สามารถตกลงเงื่อนไขของข้อตกลงนี้ได้
รัฐบาลของมณฑลกวางตุ้ง เจ้าของพื้นที่ทำการสำนักงานใหญ่ของบริษัทเรียก “สีว์ จยาอิ้น” ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัทฯ เข้าพบ และได้เปิดเผยว่า ทางการจะส่งคณะทำงานไปดูแลการบริหารความเสี่ยงของบริษัทฯ พร้อมทั้งเสริมสร้างการควบคุมภายใน และรักษาการทำงานตามปกติ
ธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีนและตลาดหลักทรัพย์จีนพยายามสร้างความมั่นใจให้กับตลาดว่า ทางการสามารถควบคุมความเสี่ยงต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ได้
ธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีนระบุว่า ความเสี่ยงระยะสั้นที่เกิดจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์เพียงแห่งเดียวจะไม่บ่อนทำลายการระดมทุนของตลาดในระยะกลางและระยะยาว พร้อมเสริมว่าการขายบ้าน การซื้อที่ดิน และการจัดหาเงินทุน "ได้กลับสู่ภาวะปกติแล้ว"