จีนประกาศนโนยายล่าสุดเกี่ยวกับการส่งเสริมภาษาจีนกลางโดยกำหนดเป้าหมายภายในปี 2025 ให้พลเมืองร้อยละ 85 ในประเทศพูดภาษาจีนกลางซึ่งเป็นภาษาประจำชาติ
รายงานข่าวของสำนักข่าวเอพีระบุ คณะมุขมนตรี ซึ่งเป็นรัฐบาลจีน ประกาศการณรงค์การใช้ภาษาจีนกลางเมื่อวันอังคาร(30 พ.ย.) โดยแจงเหตุผลว่า ภาษาจีนกลาง หรือที่จีนเรียก “ผู่ทงฮว่า” อันหมายถึง “ภาษากลาง” นั้น“ยังคงไม่สมดุลโดยยังมีการใช้ไม่กว้างขวางพอ” จึงจำเป็นต้องส่งเสริมการใช้ภาษาจีนกลางเพื่อรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจสมัยใหม่
ในแคมเปญล่าสุดนี้ นอกจากเป้าหมายปี 2025 ที่จะให้ 85 เปอร์เซนต์ของพลเมืองในจีนใช้ภาษาจีนกลาง รัฐบาลยังตั้งเป้าที่จะทำให้ภาษาจีนกลางใช้กันอย่างถ้วนทั่วในประเทศภายในปี 2035 รวมถึงในเขตชนบทและในหมู่ชนชาติส่วนน้อย
แต่กลุ่มวิพากษ์วิจารณ์มองว่าการเคลื่อนไหวรณรงค์นี้ทำให้ภาษาจีนท้องถิ่นและภาษาชาติพันธุ์ส่วนน้อยต่างๆ เช่น ภาษาจีนกวางตุ้ง ภาษาจีนฮกเกี้ยน ทิเบต มองโกเลีย และอุยกูร์ ถูกคุกคามและถูกจำกัดการใช้ฯมากยิ่งขึ้น
ก่อนหน้านี้เกิดประท้วงเป็นระยะๆ คัดค้านการเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาและเงื่อนไขการจ้างงานซึ่งลดทอนบทบาทภาษาถิ่นของชนชาติส่วนน้อย
การส่งเสริมภาษาจีนกลางให้อยู่เหนือภาษาอื่นๆ ได้กลายเป็นชนวนในการประท้วงในบางครั้ง รวมทั้งกรณีที่เกิดเมื่อปีที่แล้วในมองโกเลียใน ซึ่งรัฐบาลกำหนดให้การเรียนการสอนใช้ภาษาจีนกลางแทนที่ภาษามองโกเลีย
ส่วนทางด้านพรรคคอมมิวนิสต์ได้ประณามการประท้วงฯดังกล่าวว่าเป็นการแบ่งแยกดินแดนรูปแบบหนึ่ง และว่าความเป็นอันหนึ่งอันเดียวด้านภาษาเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเศรษฐกิจและความสามัคคีแห่งชาติ
นโยบายส่งเสริมภาษจีนกลางที่ประกาศครั้งล่าสุดนี้ยังได้เรียกร้องให้ผลักดันภาษาจีนมีสถานภาพและทรงอิทธิพลระดับสากลทั้งในด้านสถาบันการศึกษา องค์กรระหว่างประเทศและในการประชุมพบปะระดับโลก
เกี่ยวกับประเด็นนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กระทรวงศึกษาธิการจีนได้หนังสือเวียนที่มีเนื้อหาเน้นย้ำบทบาทพื้นฐานของโรงเรียนในการสอนภาษาจีนและตัวอักษรจีนที่ได้มาตรฐาน อีกทั้งกระตุ้นการเข้าถึงการศึกษาภาษาจีนที่ได้มาตรฐานในวงกว้างตามพื้นที่ของกลุ่มชาติพันธุ์ส่วนน้อย พร้อมเรียกร้องการคุ้มครองภาษาพูดและภาษาเขียนของกลุ่มชาติพันธุ์ส่วนน้อย ตลอดจนปรับปรุงคุณภาพการศึกษาของประชากรกลุ่มนี้