กลุ่มสื่อต่างชาติรายงาน (15 พ.ย.) ในเดือน ต.ค. 64 ผลผลิตถ่านหินของจีนเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งเดือน มี.ค. 58 หลังจากที่ปักกิ่งอนุมัติการขยายเหมืองถ่านหิน เพื่อเพิ่มอุปทานและควบคุมราคาที่สูงเป็นประวัติการณ์
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า ในเดือนดังกล่าว จีนได้ผลิตถ่านหินจำนวน 357.09 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 334.1 ล้านตันในเดือน ก.ย. 64 ผลผลิตในช่วง 10 เดือนแรกของปี 64 อยู่ที่ 3.3 พันล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 เมื่อเทียบเป็นรายปี
คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติ (NDRC) ระบุว่า ตั้งแต่เดือน ก.ค. 64 จีนอนุมัติการขยายเหมืองถ่านหินมากกว่า 153 แห่ง เพิ่มผลผลิตถ่านหินได้ 55 ล้านตัน
นอกจากนี้ รัฐบาลกลางพยายามแก้ปัญหาการขาดแคลนพลังงาน ด้วยการสั่งห้ามรัฐบาลท้องถิ่นปิดเหมืองถ่านหินโดยไม่ได้รับอนุญาต และผลักดันให้นำเหมืองที่ปิดไปแล้วมาใช้อีกครั้ง
เมื่อต้นปีนี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวว่า จีนจะเริ่มลดการใช้ถ่านหินตั้งแต่ปี 2569 ปัจจุบัน ถ่านหินเป็นแหล่งพลังงานไฟฟ้าคิดเป็นร้อยละ 60 ของประเทศ
ทั้งนี้ ช่วง 20 ปีที่ผ่านมา โลกตื่นตัวต่อเรื่องโลกร้อนและสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนไป อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากคาร์บอนไดออกไซด์ที่ถูกปล่อยออกไปในอากาศ เกิดเป็นก๊าซเรือนกระจก โดยการเผาถ่านหินก็เป็นตัวการใหญ่ที่สุดของภาคพลังงาน ในการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์อันเป็นที่มาของก๊าซเรือนกระจก