เมื่อสตาร์ทอัพรถโจ๋รุ่นใหม่ กำลังครองถนน แทนแบรนด์เก๋าดั้งเดิม

ไชน่าเดลี - บรรดาแบรนด์รถยนต์ผู้มาใหม่และคู่แข่งในประเทศทำงานกำลังได้รับความนิยมในการเสนอฟังก์ชั่นอัจฉริยะให้กับลูกค้า ต่างจากผู้ผลิตแบรนด์เดิมในตลาดที่กำลังดิ้นรนเจาะตลาดใหม่

รายงานข่าวเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ระบุว่า รถยนต์ไฟฟ้าของผู้ผลิตรถยนต์ในต่างประเทศแบบดั้งเดิมกำลังดิ้นรนเพื่อเจาะตลาดในระดับเดียวกับคู่แข่งรายใหม่และในประเทศ

นักวิเคราะห์กล่าวว่าความต้องการของลูกค้าชาวจีนนั้นแตกต่างจากในยุโรปหรือสหรัฐอเมริกา เนื่องจากมีการพัฒนาระบบการเชื่อมต่อ ฟังก์ชันอัจฉริยะ ระบบปฏิบัติการ และความช่วยเหลือด้านคนขับมากขึ้น

Volkswagen ของเยอรมนีเป็นแบรนด์รถยนต์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศจีน โดยมีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ และเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์นานาชาติรายแรกๆ ที่เสนอรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศ

สองรุ่นแรกที่ใช้แพลตฟอร์ม MEB ที่มีราคาแพงเริ่มส่งมอบในปลายเดือนมีนาคม อีกสองรุ่นที่ใหญ่กว่าตามมาในกลางปี ​​และรุ่นที่ห้าเปิดตัวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม เป้าหมายของโฟล์คสวาเกนในการขายรถยนต์ไฟฟ้า 80,000-100,000 คันในจีนในปีนี้นั้นยังไม่เพียงพอ ภายในสิ้นเดือนกันยายน บริษัทรถยนต์สัญชาติเยอรมันขายรถยนต์ไฟฟ้าเพียง 30,000 คันในจีน

ยักษ์ใหญ่ด้านยานยนต์รายนี้ตามหลังสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ของจีน ยังไม่รวมถึงเทสลาและบีวายดี ซึ่งแต่ละรายขายรถยนต์ได้กว่า 30,000 คันต่อเดือน และประมาณ 3 ล้าน NEVs ต่อปีในประเทศจีน

“รถยนต์ไฟฟ้าที่ออกแบบและสร้างขึ้นด้วยแนวคิดของรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซิน จะไม่ขายดีในยุคนี้” เยล จาง กรรมการผู้จัดการบริษัทที่ปรึกษาด้านยานยนต์ กล่าว

จาง กล่าวว่านี่เป็นเรื่องจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดจีน ซึ่งสตาร์ทอัพหลายสิบรายแข่งขันกันเพื่อนำเสนอโมเดลที่มีคุณสมบัติล้ำสมัย เช่น การจดจำใบหน้า และระบบคอมพิวเตอร์รุ่นล่าสุด

เขาบอกว่ายังอธิบายได้ว่าทำไมรถโฟล์คสวาเกนถึงได้รับความนิยมในยุโรปแต่ไม่ได้รับความนิยมในจีน

“ผู้ซื้อชาวยุโรปมักจะแก่กว่า ดั้งเดิมมากกว่า และพวกเขามีความภักดีต่อแบรนด์มากกว่า แต่ที่นี่ ผู้บริโภคยกย่องเทคโนโลยีใหม่เมื่อพูดถึงรถยนต์ไฟฟ้า” จางกล่าว

โฟล์คสวาเก้นไม่ได้เป็นอยู่ค่ายเดียว สิ่งที่ผู้บริโภคชาวจีนบ่นมากที่สุดเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าจากแบรนด์ต่างประเทศรายใหญ่ตั้งแต่เชฟโรเลตถึงฮุนไดคือการเชื่อมต่อที่ไม่ดีและระบบนำทางที่ใช้งานยาก

ฝู ชุนยู่ว์ พนักงานออฟฟิศอายุ 30 ปีในกรุงปักกิ่ง กล่าวว่า เธอเพิ่งทดลองขับ ฮุนได (Hyundai) แต่สุดท้ายก็เลือก รถ GAC Aion ในประเทศ โดยยอมรับว่าสิ่งที่ชนะใจเธอ คือระบบปฏิบัติการออนบอร์ดที่ดีขึ้นและฟังก์ชันช่วยขับขี่

ชุย ตงซู เลขาธิการสมาคมรถยนต์นั่งส่วนบุคคลแห่งประเทศจีน กล่าวว่า การที่แบรนด์รถยนต์ขนาดใหญ่จากต่างประเทศไม่สามารถนำเสนอคุณสมบัติที่ชาญฉลาดและการเชื่อมต่อ ได้เทียบเท่ากับที่รถยนต์ในท้องถิ่น และกำลังส่งผลกระทบต่อยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของพวกเขา

สถิติของสมาคมแสดงให้เห็นว่า รถยนต์ไฟฟ้าและปลั๊กอินไฮบริด มียอดจำหน่ายในเดือนกันยายน 350,000 คัน เพิ่มขึ้น 184% เมื่อเทียบเป็นรายปี

สำหรับผู้ผลิตรถยนต์ชาวจีน รถยนต์ดังกล่าวคิดเป็น 33% ของยอดขายทั้งหมด แต่สำหรับการร่วมทุนระหว่างประเทศ ตัวเลขดังกล่าวมีเพียง 3%

ชุย กล่าวว่าสถานการณ์อาจเปลี่ยนไปในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าโดยแบรนด์ต่างประเทศที่ตระหนักถึงปัญหาและเริ่มปรับแต่งรุ่นไฟฟ้าเพื่อดึงดูดลูกค้าในท้องถิ่นมากขึ้น ซึ่งมาตรฐานสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าถูกกำหนดโดยเทสลาและสตาร์ทอัพอย่าง Nio

ด้าน วอลโว่ ก็พยายามปรับตัวมุ่งขายเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าภายในสิ้นทศวรรษนี้ และสร้างโรงงานแบตเตอรี่ในยุโรป

ตามรายงานของ The Wall Street Journal นักลงทุนรายใหม่ที่มีศักยภาพปฏิเสธที่จะให้คุณค่ากับธุรกิจของวอลโว่โดยใช้คณิตศาสตร์แบบเดียวกับที่ใช้สำหรับผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหม่ โดยกล่าวว่ากลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงของวอลโว่นั้นกล้าได้กล้าเสีย แต่ยังไม่ได้รับการพิสูจน์