หลังจากหยุดอัปเดตคลิปวิดีโอ ‘ช่องยูทูบภาษาจีนที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลก’นานสามเดือน หลี จื่อชี (李子柒) ฉายา ‘นางฟ้าชนบท’ ก็เผยความเคลื่อนไหวด้วยการขึ้นโรงพักแจ้งความในวันที่ 30 ส.ค. ตามด้วยการยื่นฟ้องคู่หุ้นส่วนธุรกิจของเธอคือบริษัทหังโจวเวยเนี่ยน( 杭州薇念) ที่ศาลประชาชนเมืองเหมียนหยัง มณฑลซื่อชวน (หรือเสฉวน)ในวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา
มาดูเหตุปัจจัยกันว่า ‘นางฟ้าชนบท’ จะชนะทุนไหม?
ช่วงสามเดือนที่หายเข้ากลีบเมฆ หลี จื่อชี ทำอะไรบ้าง?
ในวันที่ 22 ก.ย. ที่ผ่านมา หลี จื่อชี ได้ปรากฏตัวบนหน้าจอของสถานีโทรทัศน์กลางแห่งชาติจีน หรือ CCTVระหว่างให้สัมภาษณ์ในรายการฯ หลีพูดถึงทิศทางในอนาคตของเธอเป็นครั้งแรก และได้ลั่นวาจาจะขีดเส้นกับทุนอย่างชัดเจน
หลี จื่อชี เซเลบอินเทอร์เน็ต ผู้สร้างชื่อเสียงจากคลิปวิดีโอ แต่กลับมาบ้าดีเดือดขึ้นโรงขึ้นศาลเปิดศึกคดีความสู้กับ ‘ทุน’ได้อย่างไรกัน?
สาวชนบทในเขตเขาที่ห่างไกลได้กลายมาเป็นดาวรุ่งระดับอินเตอร์เช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องบังเอิญเลย นอกจากความคิดของเธอเองแล้ว เบื้องหลังก็มีทุนอย่างเวยเนี่ยนที่ทุ่มเทลงแรงไปไม่น้อย
หลี จื่อชี ได้เกาะกระแสคลิปวิดีโอสั้นนำเสนออาหารพื้นถิ่นบะหมี่ลาเมี่ยนเมืองหลันโจว (兰州拉面) และมีชื่อเสียงในโลกอินเทอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว
หลังจากนั้นนายทุนหลายรายก็เห็นหลี จื่อชี เป็นดั่งเส้นบะหมี่ที่หอมฟุ้ง ช่วงชิงกันเข้ามาเชื้อเชิญเธอเข้าร่วมทุนธุรกิจ ในตอนแรก หลีปฏิเสธด้วยกลัวว่าจะเจอพวกนายทุนมาหลอกตีกิน จนกระทั่งนาย หลิว ถงหมิง ผู้ก่อตั้งเวยเนี่ยนมาทาบทามซึ่งตอนแรกเธอไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ จนนาย หลิวนั่งเครื่องบินจากหังโจวมาหาเธอถึงบ้านหว่านล้อมจนเธอยอมตกลงร่วมทุนด้วย
ในปี 2016 หลี จื่อชีเริ่มเข้าสู่โครงสร้างทุนของหลิว ถงหมิง โดยทั้งสองฝ่ายได้แบ่งบทบาทหน้าที่กันชัดเจนคือ หลี จื่อชีรับผิดชอบเพียงเนื้อหาส่วนหนึ่ง ด้านเวยเนี่ยนรับผิดชอบการบริหารจัดการและบรรจุภัณฑ์ มองจากภายนอกก็ดูเป็นรูปแบบที่ต่างฝ่ายได้ประโยชน์แบบวิน-วิน
ทว่า ไม่นาน หลี จื่อชีก็พบว่าตัวเองถูกนายทุนกันไว้อีกด้าน การจับมือทางธุรกิจของสองฝ่ายเริ่มด้วยการจดทะเบียนกิจการร่วมทุน คือ ซื่อชวนจื่อชีคัลเจอร์คอมมูนิเคชัน (Sichuan Ziqi Culture Communication) โดยเวยเนี่ยนถือหุ้น 51 เปอร์เซ็นต์ และหลี จื่อชี ถือหุ้น 49 เปอร์เซ็นต์ ต่อมามีการเปิดร้านค้าออนไลน์ ดำเนินธุรกิจกันไปจนถึงปี 2019 ‘ทุน’ก็เผยธาตุแท้ออกมา เวยเนี่ยนเริ่มใช้ชื่อ‘หลี จื่อชี’ ไปจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าหลายรายการ ต่อมาก็สร้าง ‘แบรนด์หลีจื่อชี’ หลากหลายภายใต้ชื่อหลี จื่อชี หนึ่งในนั้นคือ ซุปบะหมี่ลาเมี่ยนหอยหวานซึ่งเป็นสินค้าตัวท็อปของจื่อชี
ในวันช้อปแหลก ‘11/11’ (วันที่ 11 พ.ย.) ปี 2019 ‘ร้านค้าออนไลน์หลี จื่อชี’ มีมูลค่าการซื้อขายกว่า 80 ล้านหยวน หรือ กว่า 415 ล้านบาท*
ปี 2020 ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์หลี จื่อชี สร้างมูลค่าทั้งปี อีก 2,000 ล้านหยวน หรือ มากกว่า 10,399 ล้านบาท
ทว่า ทั้งหมดนี้ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับหลี่ จื่อชี เลย ทุนทั้งหมดไหลเข้ากระเป๋านายทุน ส่วนบริษัทจื่อชีที่จดทะเบียนไว้ในตอนแรกนั้นกลับอยู่ในสถานะติดลบเป็นหนี้มาตลอด
หลี จื่อชี ตรากตรำเพาะปลูกเก็บเกี่ยวพืชผล บุกป่าฝ่าดงปีนเขา แสดงวิธีทำอาหารสารพัด ฟันไม้ทำเครื่องใช้ไม้สอยต่างท่ามกลางธรรมชาติที่บริสุทธิ์ เพื่อถ่ายคลิปวิดีโอให้ชาวโลกได้ชื่นชมโลกที่งดงามราวเทพนิยายและวัฒนธรรมประเพณีจีน ซึ่งในที่สุดก็กลายเป็นเครื่องมือฟันผลกำไรของนายทุน ขณะที่หลี จื่อชีได้แต่แบกรับเรื่องแย่ๆ อาทิ ชาวเน็ตกลุ่มหนึ่งตั้งข้อสงสัยกันว่า หลี จื่อชีมีทีมใหญ่ถึง 500 คน อยู่เบื้องหลังคอยช่วยเหลือ แต่ในความจริงแล้วงานผลิตเนื้อหามีเพียงหลี จื่อชี ผู้ช่วยอีกหนึ่งคน และช่างภาพสองคน ดังที่หลี จื่อชีออกมาได้เขียนระบายหลังจากที่หายไป ว่า “ทุนเป็นเครื่องมือสามานย์จริงๆ!” *(资本真是好手段)
แต่ความสัมพันธ์ธุรกิจทั้งสองได้มาไกลจนอาจจะไม่จบง่ายๆ
ในปี 2020 โครงสร้างเอเจนซี mcn (muti-channel network) ที่หลี จื่อชี ได้เซ็นสัญญาไปนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจการค้า โดยขอบข่ายธุรกิจของบริษัทได้เปลี่ยนไปมาก นอกจากธุรกิจอาหารแล้วยังมีการเพิ่มเอเจนซีดูแลผลการปฏิบัติงาน (Performance Agent) ใหม่ๆเข้ามาอีก และนี่อาจเป็นประเด็นสำคัญของความขัดแย้งและการแยกทางกันของหลี จื่อชี กับเวยเนี่ยน
รายได้ปีละ 1,600 ล้านหยวน
ทำไมเวยเนี่ยนยินดีทิ้งผลกำไรมหาศาลมากกว่าที่จะทิ้งหลี จื่อชี?
ในยุคอินเทอร์เน็ต ใครๆก็อยากจะเป็นหลี จื่อชี แต่ก็ไม่ใครสามารถเป็นได้แบบเธอ
การที่หลี จื่อชี หยุดอัฟเดตช่องวิดีโอสามเดือน ทำให้เวยเนี่ยนสูญกำไรไปมากถึงสองสามร้อยล้านหยวน เป็นการชกหน้าทุนอย่างไม่ปรานีปราศรัย
‘หลี จื่อชี’ มีชื่อจริงคือ หลี จยาจยา (李佳佳) เกิดปี 1990 ในเมืองเหมียนหยาง อาศัยอยู่กับตายายตั้งแต่เด็ก ตาเป็นพ่อครัวชื่อดังในชุมชน มีฝีมือในการทำอาหารและงานไม้ หลี จี่อชีได้รับมรดกความชำนัญเหล่านี้มาเต็มๆ ทว่า ตาก็เสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเป็นเด็กเล็ก เธอจึงอยู่กับยายดูแลกัน
หลี จื่อชีในวัย 14 ปี ต้องรับภาระดูแลครอบครัวที่หนักอึ้ง ต้องหยุดเรียนกลางคัน เข้าเมืองหางานทำ ตอนเริ่มหางานทำที่หลี จื่อชีลำบากขนาดต้องนอนบนม้านั่งในสวนสาธารณะ แต่เธอก็ไม่แคร์อะไรทั้งสิ้น เพราะขอเพียงเธอมีชีวิตรอด ยายก็จะไม่ต้องลำบาก
จนกระทั่งปี 2015 ภาคอุตสาหกรรมวิดีโอสั้นบนอินเทอร์เน็ตเฟื่องฟู หลี จื่อชีได้คว้าโอกาสและประสบความสำเร็จ โดยเริ่มจากคลิปวิดีโออาหารพื้นถิ่น
เธอสู้มานะบากบั่นเรียนทำบะหมี่ลาเมี่ยนเมืองหลันโจวอยู่ถึงสองเดือน เพื่อที่จะทำลาเมี่ยนเมืองหลันโจวหนึ่งชาม เบื้องหลังการถ่ายทำคลิปวิดีโอต้องถ่ายแล้วถ่ายอีกถึงสองร้อยกว่าครั้ง สิ้นเปลืองเส้นบะหมี่เป็นกองภูเขา แต่ในที่สุดเธอก็ได้รางวัลเป็นความสำเร็จ
ด้วยความมานะอุตสาหะ หลีจื่อชีใช้บะหมี่ลาเมี่ยนเมืองหลันโจวหนึ่งชามดึงดูดแฟนๆ นับล้านจนกลายเป็นดาวรุ่งอินเทอร์เน็ต
ปัจจุบัน ช่องยูทูปของหลี จื่อชี มียอดวิวกว่า 2,400 ล้านวิว และสมาชิก 16 ล้าน จากการตรวจสอบยืนยัน ณ วันที่ 21 ส.ค. ปี 2021 ได้รับการบันทึกใน Guinness World Record เป็นช่องภาษาจีนบนยูทูบที่มีสมาชิกมากที่สุด
หากนับจำนวนผู้ติดตามหลี่ จื่อชี บนแพลตฟอร์มต่างๆในจีน เช่น เวยปั๋ว(Weibo) บิลิบิลิ (Bilibili) โต่วอิน (Douyin) หรือติ๊กต็อกเวอร์ชั่นจีน ฯลฯ รวมกันเกือบ 100 ล้านคน
จากบล็อกเกอร์คลิปวิดีโอสั้นเกี่ยวกับอาหารพื้นถิ่นจีน จนมีแฟนติดตามนับสิบล้านคน กลายเป็นผู้เผยแพร่วัฒนธรรมประเพณีจีนไปทั่วโลก
ในที่สุด ไป๋ เหยียนซง (白岩松) พิธีกรคนดังแห่ง CCTV ก็ออกโรงมาสนับสนุนหลี จื่อชี อย่างเปิดเผย ด้วยมีสื่อกระแสหลักอย่าง CCTV คอยหนุนหลัง หลี จื่อชี จึงมีความหวังในอนาคตที่สดใส
อัตราแลกเปลี่ยนหยวน ณ วันที่ 5 พ.ย.2021 : 1 หยวน เท่ากับ 5.2 บาท
ที่มาแหล่งข้อมูลหลัก: บทความเผยแพร่ในสื่อจีน หว่างอี้ (网易/163.com) ชื่อบทความ: 为何薇念宁愿损失4亿,也要跟李子柒闹掰?你看李子柒身后站着谁
Clip: สถานีโทรทัศน์กลาง CCTV: รายการลู่เจี้ยนสัมภาษณ์ ตอน “คุยกับ หลี จื่อชี” วันที่ 22 ก.ย.2021
Clip: สำนักข่าวซินหัวคุยกับ หลี จื่อชี วันที่ 28 ก.ย.2021