ซินหัว — มหาวิทยาลัยของจีน 7 แห่ง นำโดย มหาวิทยาลัยชิงหัว-มหาวิทยาลัยปักกิ่ง ติด 100 อันดับแรกของการจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกโดยนิตยสารไทมส์ ไฮเออร์ เอดูเคชันของอังกฤษ ประจำปีนี้ คนจัดอันดับชี้การศึกษาระดับอุดมศึกษาทั่วโลกกำลังเปลี่ยนโฉม
วานนี้ (27 ต.ค.) นิตยสารไทมส์ ไฮเออร์ เอดูเคชัน (THE) ของสหราชอาณาจักร เปิดเผยผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกประจำปี 2564 (World Reputation Rankings) โดยมีมหาวิทยาลัยจากจีนแผ่นดินใหญ่ 7 แห่ง ติดใน 100 อันดับแรก
มหาวิทยาลัยชิงหัว (清华大学) และมหาวิทยาลัยปักกิ่ง (北京大学) ติดอันดับที่ 10 และ 15 ตามลำดับ ขณะที่มหาวิทยาลัยอีก 5 แห่งที่ติดการจัดอันดับ ได้แก่ มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ เจียวทง (上海交通大学) มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง (浙江大学) มหาวิทยาลัยฟู่ตั้น (复旦大学) มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศจีน (中国科学技术大学) และมหาวิทยาลัยหนานจิง (南京大学)
การจัดอันดับมหาวิทยาลัยประจำปีของนิตยสารฯ รวบรวมข้อมูลจากการสำรวจตัวแทนนักวิชาการอาวุโสมากกว่า 10,000 คนทั่วโลก เพื่อจัดอันดับมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก 200 อันดับแรก
ปีนี้มหาวิทยาลัยจากจีนแผ่นดินใหญ่ที่เคยติดการจัดอันดับปีก่อน มีทั้งไต่อันดับสูงขึ้นหรือครองตำแหน่งเดิมติดต่อกันเป็นปีที่ 2 ทั้งยังมีมหาวิทยาลัยใหม่ที่เพิ่งติดอันดับในปีนี้รวม 5 แห่ง ทำให้จีนแผ่นดินใหญ่มีมหาวิทยาลัยอยู่ในการจัดอันดับรวม 17 แห่ง
ฟิล บาตี หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายความรู้ของนิตยสารฯ เผยว่าความก้าวหน้าของมหาวิทยาลัยจากจีนแผ่นดินใหญ่ที่ติด 10 อันดับแรกและผลลัพธ์โดยรวม แสดงถึงความเป็นเลิศด้านการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่กำลังได้รับความสนใจจากทั่วโลกมากขึ้นเรื่อย ๆ
“นั่นหมายความว่าเราอาจเห็นการเปลี่ยนแปลงด้านการศึกษาระดับอุดมศึกษาทั่วโลกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เนื่องจากจีนแผ่นดินใหญ่กลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจยิ่งขึ้นสำหรับนักวิชาการและนักศึกษาในการเข้าไปทำงานและศึกษาต่อ” บาตีกล่าว “สิ่งนี้จะเป็นประเด็นขบคิดของหลายประเทศอย่างสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร ไม่เพียงแต่ในแง่ของการดึงดูดผู้มีความสามารถ แต่ยังรวมถึงด้านเงินทุนและศักดิ์ศรีบนเวทีโลกด้วย”
การจัดอันดับครั้งนี้ประกอบด้วยมหาวิทยาลัย 202 แห่ง จาก 29 ประเทศและภูมิภาค โดยมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดของสหรัฐฯ ยังคงครองอันดับ 1 ตามมาด้วยสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ที่ยังคงครองอันดับ 2 ขณะที่มหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดของสหราชอาณาจักรขยับขึ้นสองอันดับมาอยู่ที่อันดับ 3
