อาร์ทีไอและกลุ่มสื่อต่างประเทศรายงาน (14 ต.ค.) เวลาประมาณ 02.54 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้ใหญ่ที่อาคารเฉิงจงเฉิง เขตเหยียนเฉิง นครเกาสง ซึ่งเป็นอาคารที่พักอาศัยก่อสร้างมาแล้ว 40 ปี ล่าสุดเย็นวันที่ 14 ต.ค. (16.00 น.) มีผู้เสียชีวิต 46 คน ได้รับบาดเจ็บ 41 คน
รายงานข่าวกล่าวว่า บริเวณชั้นที่ 7 ถึงชั้นที่ 11 มีประชาชนพักอาศัยอยู่ถึง 120 ครัวเรือน ส่งผลให้หน่วยบรรเทาสาธารณภัยต้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่จำนวน 159 นาย และรถดับเพลิงอีกจำนวน 79 คัน เข้าควบคุมเพลิงพร้อมกับช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ภายในอาคารดังกล่าว
จนกระทั่งเวลา 04.51 น. เจ้าหน้าที่ก็สามารถควบคุมเพลิงได้สำเร็จ และดับไฟทั้งหมดลงได้เมื่อเวลา 07.17 น. ของวันพฤหสบดี (14)
CNA รายงานข่าวว่า อพาร์ตเมนต์มีจำนวนห้องพักทั้งหมด 120 ยูนิต มีผู้สูงอายุจำนวนมากอาศัยตามลำพังภายในห้องพักขนาดเล็กพื้นที่ราว 13 ตารางเมตร
นายกรัฐมนตรีซูเจิ้นชาง (蘇貞昌) ได้ยกเลิกตารางงานในช่วงบ่ายวันนี้ทั้งหมด เพื่อลงพื้นที่ติดตามผลคืบหน้าของการปฏิบัติงานและให้กำลังใจกับผู้ประสบภัย สั่งการกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุขฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานร่วมกับนครเกาสงเพื่อให้ความช่วยเหลือในบรรเทาภัยพิบัติและเยียวยาผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่
โฆษกสำนักงานดับเพลิงเมืองเกาสุยง กล่าวว่ามีเจ้าหน้าที่กู้ภัยไม่ต่ำกว่า 377 คนถูกส่งไปที่เกิดเหตุ และยังคงปฏิบัติงานกู้ภัยอย่างต่อเนื่อง และมีชุดทำงานค้นหาผู้ประสบภัยตั้งแต่ชั้น 7 ไปจนถึงชั้น 11 โดยเฉพาะในกลุ่มของผู้อาศัยที่นั่นและติดอยู่ด้านในห้องของตัวเอง โดยเจ้าหน้าที่จะพังประตูเข้าไปค้นหาด้านใน
จนถึงช่วงบ่ายของวันพฤหัสบดี (14) สำนักงานดับเพลิงเมืองเกาสุยงส่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 42 หน่วยไปที่อพาร์ตเมนต์เกิดเหตุในเขตหยานเจิ้ง
สำนักงานดับเพลิงกล่าวถึงสถานการณ์ว่า ไฟโหมแรงมากและทำลายหลายชั้นของตัวอาคาร หมอกควันดำคละคลุ้งหนาทึบจากอพาร์ตเมนต์ ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงอยู่บนบันไดดับเพลิงที่ยื่นออกมากลางอากาศเพื่อพยายามควบคุมเพลิง
รายงานเบื้องต้นเหตุการณ์เพลิงไหม้ครั้งนี้ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 46 คน ได้รับบาดเจ็บ 41 คน เฉินฉีม่าย (陳其邁) ผู้ว่าการนครเกาสงได้เดินทางไปยังสถานที่เกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณตี 5 กล่าวว่า ต้นเหตุของเพลิงไหม้อาจเกิดจากการกระทำของมนุษย์ เนื่องจากมีข่าวลือว่าก่อนเกิดไฟไหม้มีคู่รักคู่หนึ่งทะเลาะกันแล้วขว้างก้นบุหรี่ทิ้ง แต่สาเหตุที่แท้จริงยังต้องรอการตรวจสอบ