กลุ่มชาวจีนทั้งขำกลิ้งทั้งจวกยับ เมื่อทางการท้องถิ่นในจีนเผยแคมเปญส่งเสริมให้หญิงจีนอาศัยอยู่ในท้องถิ่นและแต่งงานกับชายโสดที่มีอายุมากขึ้นบ้านเดียวกัน เพื่อแก้ “วิกฤตการแต่งงาน” ของประเทศที่ลดลงติดๆกันเป็นที่ 7 เข้าไปแล้ว
แคมเปญฯดังกล่าวเสนอโดยทางการอำเภอเซียงอิน มณฑลหูหนันเมื่อวันศุกร์(8 ต.ค.)ที่ผ่านมา โดยพรรคคอมมิวนิสต์ประจำอำเภอเซียงอิน ได้เผยแพร่บทความเกี่ยวกับข้อเสนอผลักดันแคมเปญที่ชื่อว่า “ปฏิบัติการสร้างรังงรักอันอบอุ่น” บนเว็บไซต์ขององค์กร ในบทความได้ระบุว่า “ปัญหาท้าทายของหนุ่มใหญ่ในชนบทที่กำลังหาคู่แต่งงาน กำลังขยายใหญ่จากปัญหาส่วนบุคคลไปเป็นปัญหาสังคมแล้ว”
แผนการรณรงค์ประกอบด้วยมาตรการสี่ประการ ได้แก่ ไม่ส่งเสริมให้ผู้หญิงในท้องถิ่นย้ายออกจากเขตชนบท ปรับขั้นตอนทางกฎหมายให้เรียบง่ายเพื่อดึงดูดให้คนอยู่ในภูมิลำเนา เพิ่มบริการหาคู่ ขยายโอกาสในการหางานทำในท้องถิ่นและค่าจ้าง
“ผู้หญิงในชนบทต้องได้รับการศึกษาใหม่ให้รักภูมิลำเนา พัฒนาบ้านเกิด ส่งเสริมให้อาศัยฯและเปลี่ยนแปลงบ้านเกิดของตน เพื่อแก้ไขปัญหาอัตราที่ไม่สมดุลระหว่างเพศชายและเพศหญิง” ในบทความข้อเสนอ ระบุ
หลังจากที่บทความชิ้นนี้เผยแพร่ออกไปก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ขรมโดยหลายเสียงชี้ว่าข้อเสนอฯนี้ละเมิดเสรีภาพของผู้หญิง
“พวกเรายังไม่ได้รับการศึกษา ดังนั้นจึงควรกลับไปบ้านเกิดและรับใช้นโยบายแต่งงาน” ผู้หญิงคนหนึ่งโพสต์ข้อความในโซเชียลมีเดียจีน เวยปั๋ว
“ฉันสงสัยว่าตอนนี้ผู้หญิงที่ยังอยู่ในหมู่บ้านจะเตรียมเผ่นหนีไปอยู่ที่อื่นกันหมดหลังจากที่ได้เห็นข้อเสนอนี้” ชาวเน็ตผู้หนึ่ง คอมเมนท์
อีกคนแย้งว่า “เรื่องอะไรจะมาให้ผู้หญิงต้องเสียสละสิทธิประโยชน์ของตน?”
“ทำไมไม่ไปส่งเสริมชายหนุ่มอายุน้อยสร้างเนื้อสร้างตัวมั่นคง?”
“พัฒนาเศรษฐกิจ ส่งเสริมวัฒนธรรม เด็กสาวๆก็อยากอยู่ในภูมิลำเนากันเอง”
ส่วนกลุ่มที่ออกมาแสดงความเห็นสนับสนุนแคมเปญฯเพื่อวิกฤตการแต่งงานนี้ ก็ถูกศอกกลับยับ
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เว็บไซต์ Red Net ของคณะกรรมาธิการพรรคฯประจำมณฑลหูหนัน ได้เผยแพร่บทความชิ้นนี้พร้อมกับชี้ว่าเป็น “ข้อเสนอที่จำเป็น”
“ไม่ใช่ประเด็นเล็กๆเลยสำหรับผู้ชายที่มีอายุมากขึ้นในชนบทที่จะมีภรรยากัน ‘ปฏิบัติการสร้างรังรักอันอบอุ่น’ เป็นทางออกที่จำเป็นสำหรับเขตชนบท และชายสูงอายุในชนบทได้มีความสุขมากขึ้น” คณะกรรมาธิการพรรคฯประจำมณฑลหูหนัน ออกมาสนับสนุนแคมเปญฯ และว่า “ในเขตชนบทการที่ผู้ชายหาภรรยาไม่ได้นั้นกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว...มันเป็นเรื่องน่าเศร้ารันทดสำหรับพ่อแม่และตัวพวกเขาเอง”
ทางด้านอำเภอเซียงอินผู้ริเริ่มแคมเปญได้ออกมาชี้แจงว่า ข้อเสนอของรัฐไม่ได้หมายความว่าจะมีการบีบบังคับให้ผู้หญิงอยู่ในท้องถิ่น เจ้าหน้าที่รัฐตั้งใจส่งเสริมการอาศัยอยู่ในบ้านเกิด”
ในปี 2020 ในประเทศจีน มีคู่รักที่เข้าพิธีวิวาห์หรือตกลงแต่งงานกัน เพียง 8.13 ล้านคู่เท่านั้น ซึ่งคิดเป็นอัตราที่ลดลง 12 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับปีก่อนหน้า และนับเป็นปีที่ 7 ต่อเนื่องกันที่จีนมีอัตราแต่งงานลดลง ข้อมูลจากกระทรวงกิจการพลเรือนจีนระบุ
อัตราแต่งงานในจีนลดลงเรื่อยๆเช่นนี้เป็นเพราะอัตราส่วนที่ไม่สมดุลระหว่างเพศชายและเพศหญิงซึ่งเป็นผลของการเลือกปฏิบัติทางเพศและการเลือกเพศทารกที่จะให้ถือกำเนิดออกมาดูโลก โดยปัญหาทั้งหมดนี้เป็นผลพวงจากนโยบายลูกคนเดียวที่จีนบังคับใช้มาร่วม 40 ปี โดยเขตชนบทได้รับผลกระทบอย่างมากเนื่องจากผู้หญิงจำนวนมากย้ายถิ่นไปอยู่ตามเมืองใหญ่ซึ่งโอกาสการหางานทำดีกว่า
อัตราส่วนระหว่างเพศชายและเพศหญิงที่ถือกำเนิดมา มีความไม่สมดุลมากที่สุดในโลก เท่ากับ เพศชาย 114 ต่อเพศหญิง 100 ทั้งนี้เป็นข้อมูลสถิติขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO
สำหรับแคมเปญของอำเภอเซียงอินที่โดนหัวเราะเยาะยกใหญ่นี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีข้อเสนอทำนองนี้ออกมา ในต้นปีนี้เจ้าหน้าที่อาวุโสในสำนักคลังสมองจีนได้เสนอส่งเสริมให้ผู้หญิงในเมืองที่ยังไม่แต่งงานหาคู่แต่งงานในเขตชนบท ซึ่งมีชายโสดหลายล้านคนที่กำลังมองหาเจ้าสาว สำหรับข้อเสนอนี้ก็โดนประชาชนจวกเละไปเช่นกัน
แปลเรียบเรียงจาก
Chinese county’s plan to solve ‘marriage crisis’ by pressuring women into marrying single rural men backfires
“鼓励女青年留乡解决大龄男择偶难”?当地政府回应


