สำนักข่าวซินหัว สื่อทางการจีน รายงาน วันพุธ (6 ต.ค.) "แคร์รี แลม" ผู้บริหารสูงสุดประจำเขตบริหารพิเศษฮ่องกงกล่าวปราศรัยนโยบายประจำปีในการประชุมสภานิติบัญญัติระบุว่า ฮ่องกงจะพัฒนาเขตมหานครแห่งใหม่ขึ้นในพื้นที่ทางตอนเหนือของฮ่องกง เพื่อรองรับประชากร 2.5 ล้านคน และบูรณาการฮ่องกงเข้ากับการพัฒนาโดยรวมของประเทศให้ดียิ่งขึ้น
แลมเปิดเผยว่า พื้นที่ทางตอนเหนือของฮ่องกงจะได้รับการพัฒนาให้เป็นเขตมหานครในอุดมคติสำหรับผู้คนในด้านการอยู่อาศัย ทำงาน และเดินทางท่องเที่ยว พร้อมเสริมว่าควรเพิ่มทรัพยากรที่ดินเพื่อใช้สำหรับการเคหะและการพัฒนาอุตสาหกรรมต่างๆ
มหานครแห่งนี้จะมีขนาด 300 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมเขตเศรษฐกิจตามแนวจุดผ่านแดนเซินเจิ้น-ฮ่องกง จากฝั่งตะวันตกไปยังตะวันออก รวมถึงพื้นที่ที่อยู่ถัดเข้าไปด้านใน
นโยบายประจำปีระบุว่า ปัจจุบันมีโครงการพัฒนาจำนวนมากในเขตมหานครทางตอนเหนือของฮ่องกงแห่งนี้ ทั้งที่แล้วเสร็จและที่กำลังวางแผนอยู่ ซึ่งจะสร้างที่พักอาศัยประมาณ 350,000 ยูนิต และจะมีการพัฒนาที่ดินเพิ่มเติมอีก 600 เฮกตาร์ (ราว 3,750 ไร่) เพื่อใช้ในจุดประสงค์ด้านการพักอาศัยและอุตสาหกรรม และจะมีที่พักอาศัยประมาณ 165,000-186,000 ยูนิต
เมื่อเขตมหานครทางตอนเหนือพัฒนาอย่างเต็มรูปแบบ จะมีที่พักอาศัยรวม 905,000-926,000 ยูนิต ซึ่งจะพร้อมรองรับประชากรประมาณ 2.5 ล้านคน
แลมกล่าวว่า ตำแหน่งงานทั้งหมดในมหานครจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก จาก 116,000 ตำแหน่งในปัจจุบันเป็น 650,000 ตำแหน่งในอนาคต โดยจะเป็นงานที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมนวัตกรรมและเทคโนโลยี 150,000 ตำแหน่ง
“ทั้งหมดนี้จะช่วยให้เราตอบรับโอกาสใหม่ๆ ที่เกิดจากความร่วมมือที่ลึกซึ้งระหว่างฮ่องกงและเซินเจิ้นได้ดียิ่งขึ้น” แลม กล่าว
ทั้งนี้ คำปราศรัยนโยบายประจำปี 2021 ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 5 นับตั้งแต่แลมเข้ารับตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกงเมื่อปี 2017 มุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมเศรษฐกิจฮ่องกง แก้ปัญหาขาดแคลนที่พักอาศัย และกระตุ้นฮ่องกงให้ผสานตนเองเข้ากับการพัฒนาของประเทศจีนได้ดียิ่งขึ้น