xs
xsm
sm
md
lg

ในหลวง มีพระราชสาส์นอำนวยพรไปยังปธน. สี จิ้นผิง เนื่องในวันชาติจีน ครบรอบ 72 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


กระเช้าดอกไม้ยักษ์อำนวยพรวันชาติจีนกลางจัตุรัสเทียนอันเหมิน กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ท่ามกลางประชาชนชาวจีนที่มาร่วมเฉลิมฉลองวันชาติจีน ปี 2564 ซึ่งเป็นวาระครบรอบการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนชาติครบรอบ 72 ปี ภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (ภาพ เอพี)
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ส่งข้อความพระราชสาส์นอำนวยพรไปยัง สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ในโอกาสวันชาติจีนแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งตรงกับวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ ดังนี้

ฯพณฯ นายสี จิ้นผิง
ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน
กรุงปักกิ่ง

ในโอกาสวันชาติของสาธารณรัฐประชาชนจีน ข้าพเจ้าขอแสดงความยินดีอย่างยิ่ง และขออำนวยพรให้ท่านประธานาธิบดีมีพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงและประสบความสุขสวัสดี ทั้งขอให้ประเทศและประชาชนชาวจีนประสบความสำเร็จและเจริญรุ่งเรืองยิ่ง ๆ ขึ้นไป

ประวัติศาสตร์ในห้วงเวลาที่ผ่านมา ได้แสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ว่า ประเทศจีนและประเทศไทยมีความร่วมมืออันใกล้ชิดสนิทสนมและยังประโยชน์ซึ่งกันและกันมากเพียงไร ทั้งมีบทบาทเพียงใด ในชีวิตความเป็นอยู่ของพลเมืองในประเทศเราทั้งสอง ความร่วมมือด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการเผชิญความทุกข์ยากจากภาวะโรคระบาด นับเป็นความร่วมมือที่สำคัญยิ่ง เช่นเดียวกันกับความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน เทคโนโลยี และโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนการติดต่อสัมพันธ์ระหว่างประชาชน ซึ่งมีการท่องเที่ยวเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดนั้น ก็ได้ช่วยสร้างเสริมความเข้าใจอันดีและไมตรีจิตมิตรภาพที่มีเปี่ยมล้นอยู่ให้เพิ่มพูนยิ่งขึ้น

ข้าพเจ้าและประชาชนชาวไทยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความร่วมมือกับประเทศจีนในด้านต่าง ๆ หลังสิ้นสุดภาวะโรคระบาดครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะฟื้นคืนกลับมาเท่านั้น หากยังจะพัฒนาให้เข้มแข็งและมั่นคงยิ่ง ๆ ขึ้นไปอีกด้วย

(พระปรมาภิไธย) มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว


สี จิ้นผิง, หลี่ เค่อเฉียง, หลี่ จ้านซู, หวัง หยาง, หวัง ฮู่หนิง, จ้าว เลอจื่อ, หาน เจิ้ง และ หวัง ฉีซาน ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีน เข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองครบรอบ 72 ปี สถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีแขกเกือบ 500 คนจากทั้งในและต่างประเทศ เมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2564 ในกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน (แฟ้มภาพซินหัว)


กำลังโหลดความคิดเห็น