เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปักกิ่งครั้งที่ 11 ได้บรรลุเสร็จสิ้นไปอย่างสมบูรณ์แบบไปเมื่อคืน (29 ก.ย.) เมื่อ “ปักกิ่งมาเจอกับภาพยนตร์” และ “เมื่อภาพยนตร์ตกหลุมรักนครแห่งนี้” เรื่องราวบุพเพสันนิวาสที่ถูกจารึกด้วยแสงและเงาก็จะดำเนินต่อไป
พิธีปิดและประกาศรางวัลในปีนี้ได้ชูแนวคิด “โชคชะตาร่วมแห่งมนุษยชาติ” และจัดงานผ่านทางออนไลน์ แขกรับเชิญทั้งในและนอกประเทศได้แบ่งปันความทรงจำอันยากที่จะลืมผ่านทางหน้าจอ ส่งผ่านความรู้สึกอันท่วมท้น และเป็นประจักษ์พยานว่าภาพยนตร์สามารถนำพาคนที่มีสีผิว ชาติพันธุ์ ถิ่นที่อยู่แตกต่างกันมาใกล้ชิดกันได้ อีกทั้งปีนี้ยังเป็นโอกาสครบรอบ 100 ปีการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน ธีมหลักของหนังที่ฉายและการแสดงจากเหล่าศิลปินในคืนพิธีปิดจึงมุ่งเน้นไปที่วิวัฒนาการประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่
ระบบคลาวด์เชื่อมความรู้สึกของทั้งโลก ส่วนเทคโนโลยีภาพเสมือนก้าวล้ำการสัมผัสรับรู้แบบเดิม
พิธีปิดและประกาศรางวัลเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปักกิ่งครั้งนี้เรียกได้เต็มปากว่าเป็น “ค่ำคืนที่จะสลักใจคนไปตลอดกาล” เพราะมันได้ทำลายพิธีการตามขนบ แล้วใช้เทคโนโลยีเชื่อมต่อแบบเรียลไทม์ เพื่อให้คณะผู้จัดทำภาพยนตร์ที่เข้าชิง “รางวัลเทียนถาน” สามารถร่วมงานได้ เนื่องจากสถานการณ์โรคโควิด-19 ทำให้ทีมงานภาพยนตร์เจ้าของรางวัลที่อยู่ต่างประเทศไม่ได้สัมผัสรางวัลกับมือ แต่ก็ยังสามารถสัมผัสกับความสุขได้ เพราะเมื่อประกาศผล รางวัลก็จะถูกส่งทางออนไลน์ไปให้ผู้ชนะทันที ดูเหมือนว่าโชคชะตาของคนทำหนังจากทุกมุมโลกได้ประสานแนบแน่นบนแพลตฟอร์มของเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปักกิ่งนี้เอง
อุตสาหกรรมภาพยนตร์ทั่วโลกก็ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดเช่นกัน การมอบรางวัลออนไลน์ครั้งนี้เสมือนกับว่าสามารถสลัดทิ้งซึ่งความต่างของเวลา เอาชนะอุปสรรคระยะทาง และผสานความรู้สึกและพลังของคนทำหนังทั้งจีนและเทศเข้าด้วยกัน การจัดงานเทศกาลภาพยนตร์ไม่เพียงแต่จะช่วยผลักดันความเจริญก้าวหน้าของอุตสาหกรรมหนังจีนและต่างประเทศ แต่ยังช่วยปลุกสปิริตของคนในวงการให้ลุกขึ้นมาสยายปีกบินหลังจากผ่านสถานการณ์อันยากลำบาก
เพื่อที่จะมอบประสบการณ์พิเศษให้ผู้เข้าร่วมและบรรดาแฟนหนัง ทางเทศกาลได้นำเทคโนโลยีภาพเสมือนมาใช้กับถ้วยรางวัลเทียนถาน การมอบรางวัลจึงให้ความรู้สึกสัมผัสรับรู้แบบใหม่ครบมิติ
นักแสดงชั้นครูร่วมย้อนวันวานถึงยุคทองของหนังจีน
เพราะมี ‘เหอปิง’ (何冰) กับ ‘อู๋กัง’ (吴刚) นักแสดงมือเก๋ามาช่วยนำบรรยากาศ พิธีมอบรางวัลจึงเปี่ยมด้วยบรรยากาศคึกคักและตื้นตัน ‘เฉินเต้าหมิง’ (陈道明) ‘ก่งลี่’ (巩俐) ‘เก่อโยว’ (葛优) ‘เจียงเหวิน’ (姜文) ‘หลิวเสี่ยวชิ่ง’ (刘晓庆) และนักแสดงยุคทองคนอื่น ๆ ได้มาพบปะกัน ก็ทำให้ผู้ชมรู้สึกท่วมท้นไปด้วย ก่งลี่จับมือกับเจียงเหวินร่วมมอบรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ระหว่างนั้นก็หวนนึกถึงการร่วมงานในเรื่อง ‘ตำนานรักทุ่งสีเพลิง’ (Red Sorghum) เมื่อ 34 ปีก่อน ทั้งสองพูดว่า “อีก 34 ปีเราสองคนมามอบรางวัลด้วยกันอีกนะ อย่าผิดนัดล่ะ!” เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปักกิ่งเป็นเหมือน “ค่ายฐาน” ของคนวงการหนัง เป็นความหมายของภาพยนตร์จีน
เฉินเต้าหมิงกับเก่อโยว ร่วมกันมอบรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม ทั้งสองคนต่างก็พูดแซวกันไปมาให้บรรยากาศตลกขบขัน แถมยังลามไปแซวก่งลี่อีกว่าเป็น “คนที่ได้รับเกียรติสูงสุด” ณ ที่แห่งนี้ เพราะ “สามีสามสมัย” ในภาพยนตร์ที่เคยแสดงร่วมกันมาทั้ง เจียงเหวิน เก่อโยว เฉินเต้าหมิง อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาหมด ส่วน ‘เฉินคุน’ (陈坤) กับหลิวเสี่ยวชิ่ง นักแสดงคนละรุ่นที่มีความรู้ความเข้าใจต่ออาชีพนักแสดงอย่างถึงแก่นเหมือน ๆ กันร่วมมอบรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม
สุนทรพจน์ของหลิวเสี่ยวชิ่ง ที่ว่า “จะเชิดชูภาพยนตร์ไปตลอด จะสู้เพื่อภาพยนตร์ จะน้ำตาปริ่มขอบตา จะแผดเผาอารมณ์ให้ลุกโชนตลอดไป” ไม่เพียงแต่จะได้รับการกดไลค์และเสียงปรบมือจากผู้ชม แต่ยังทำให้คนในงานตื่นตัวและตื้นตันไปตาม ๆ กัน
สรุปรายชื่อผู้ได้รับ ‘รางวัลเทียนถาน’ เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปักกิ่งครั้งที่ 11
ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม: Beyond the Skies (จีน)
ผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม: Andrey Zaytsev จากเรื่อง A Siege Diary (รัสเซีย)
บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม: Christian Torpe จากเรื่อง The Pact (เดนมาร์ก)
นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม: คณะนักแสดงจากเรื่อง Beyond the Skies (จีน)
นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม: Noee Abita จากเรื่อง Slalom (ฝรั่งเศส/เบลเยียม)
นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม: Shahab Hosseini จากเรื่อง Any Day Now (ฟินแลนด์)
นักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม: Nanna Skaarup Voss จากเรื่อง The Pact (เดนมาร์ก)
กำกับภาพยอดเยี่ยม: Mi Xinjun จากเรื่อง Beyond the Skies (จีน)
ดนตรีประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม: Tuomas Nikkinen และ Linda Arnkil จากเรื่อง Any Day Now (ฟินแลนด์)
เทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม: –
ที่มา:
第十一届北京国际电影节圆满落幕,“天坛奖”大奖揭晓