เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ (25 ก.ย.) รายงาน สหรัฐฯ ปล่อยตัว “เมิ่ง หว่านโจว” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (CFO) ของ หัวเว่ย บินกลับจีน ถอนคำขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน
รายงานข่าวกล่าวว่า เที่ยวบินของ Air China ที่พาเมิ่ง หว่านโจว ได้ออกจากสนามบินแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา เมื่อเวลา 16.29 น. ในวันศุกร์ ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่สหรัฐฯ ถอนคำขอส่งผู้ร้ายข้ามแดน
เมิ่ง หว่านโจว ผู้บริหารระดับสูงของ Huawei Technologies Co. บินกลับไปจีน หลังจากบรรลุข้อตกลงกับอัยการในนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ ในคดีฉ้อโกงของสหรัฐฯ ที่ทำให้เธอต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายในแวนคูเวอร์มาเกือบ 3 ปี
ข้อตกลงดังกล่าวไม่เพียงแค่รับประกันการปล่อยตัวเมิ่ง แต่ดูเหมือนว่าจะส่งผลให้จีนปล่อย ไมเคิล คอวริก และ ไมเคิล สปาวอร อดีตเจ้าหน้าที่ทูตชาวแคนาดาที่ถูกจีนดำเนินคดีในความผิดฐาน “เป็นสายลับ” เช่นกัน
นายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด ของแคนาดา แถลงว่าข้อตกลงการดำเนินคดี ข้อกล่าวหาต่างๆ ถูกระงับแล้ว ได้รับการอนุมัติในการพิจารณาคดีของศาลรัฐบาลกลางสหรัฐในบรูคลิน ซึ่งเมิ่งเข้าร่วมฟังผ่านลิงก์วิดีโอ จากนั้นเธอก็ปรากฏตัวสั้นๆ ที่ศาลฎีกาแห่งบริติชโคลัมเบีย ซึ่งคำร้องขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนถูกเพิกถอน รวมทั้งเงื่อนไขการประกันตัวของเธอ ส่งผลให้คดีที่ยืดเยื้อมานาน ยุติลง หลังก่อให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับแคนาดาและสหรัฐฯ ตกอยู่ในวิกฤตมาตลอด
รายงานข่าวกล่าวว่า เมิ่ง สวมกอดผู้สนับสนุนและออกจากห้องพิจารณาคดีในแวนคูเวอร์
“นางเมิ่ง หว่านโจว มีอิสระที่จะเดินทางออกจากประเทศแคนาดา” กระทรวงยุติธรรมของแคนาดากล่าวในแถลงการณ์
รายงานข่าวกล่าวว่า ประมาณหนึ่งชั่วโมงหลังจากเมิ่งขึ้นเครื่องบิน เครื่องบินโดยสารอีกลำหนึ่งก็ได้ออกจากจีนบินสู่แคนาดาเช่นกัน โดยมี ไมเคิล คอฟริกและไมเคิลสปาเวอร์ เป็นผู้โดยสารฯ
“เมื่อประมาณ 12 นาทีที่แล้ว เครื่องบินที่ไมเคิล คอฟริกและไมเคิลสปาเวอร์ เป็นผู้โดยสารฯ ออกจากน่านฟ้าจีน และพวกเขากำลังเดินทางกลับบ้าน” นายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด ของแคนาดากล่าว
ก่อนหน้านี้ สื่อต่างประเทศรายงานจากการเปิดเผยของแหล่งข่าวใกล้ชิดในเรื่องนี้เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ได้กำลังหารือข้อตกลงหนึ่งกับบรรดาทนายความของ เมิ่ง หว่านโจว ลูกสาวผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (CFO) ของหัวเว่ย ได้แก่การสารภาพผิด ซึ่งจะเปิดทางให้เธอเดินทางจากแคนาดากลับสู่ประเทศจีน
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า การเจรจาระหว่างทนายความของ เมิ่ง หว่านโจว และกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ถูกหยิบยกขึ้นมา ตามหลังศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ แต่ยังคงไม่เป็นที่ชัดเจนว่าข้อตกลงที่อาจสามารถบรรลุกันได้นั้นจะออกมาในรูปแบบใด ด้วยที่ เมิ่ง ไม่คิดว่าเธอทำอะไรผิด บริษัทในเครือของหัวเว่ย ไม่ได้ละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ต่ออิหร่าน โดยจัดหาสินค้าและบริการต้องห้าม
ตอนนี้ เมิ่ง ยังลังเลที่จะยอมรับสารภาพผิดในสิ่งที่เธอคิดว่าไม่เป็นความจริง พร้อมบอกว่าการเจรจาดังกล่าวดูเหมือนไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงที่ครอบคลุมระหว่างสหรัฐฯ กับหัวเว่ย
วอลล์สตรีท เจอร์นัล เป็นสื่อมวลชนแห่งแรกที่รายงานข่าวเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดข้อตกลงดังกล่าว
เมิ่ง วัย 48 ปี ถูกจับกุมในแคนาดาเมื่อเดือนธันวาคม 2018 ตามหมายจับของสหรัฐฯ เธอเผชิญข้อกล่าวหางฉ้อโกงธนาคาร ชี้นำธนาคารเอชเอสบีซี โฮลดิ้ง ในทางที่ผิดเกี่ยวกับธุรกรรมของหัวเว่ยในอิหร่าน เป็นเหตุให้ธนาคารแห่งนี้ละเมิดมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ
ทั้งนี้ เมิ่ง ยืนกรานว่าเธอไม่ได้กระทำผิดและกำลังต่อสู้คดีที่แคนาดาจะส่งตัวเธอให้กับสหรัฐฯ ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน
คณะที่ปรึกษาด้านกฎหมายของ เมิ่ง ได้ต่อสู้คัดค้านการถูกส่งตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน โดยระบุว่า สหรัฐฯ ใช้กรณีการส่งตัว เมิ่ง ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนเพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจและการเมือง และระบุว่า เมิ่ง ได้รับหมายค้น, ถูกสอบสวน และถูกควบคุมตัวแบบที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายโดยเจ้าหน้าที่ของแคนาดาในนามของสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (FBI)
โฆษกกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ปฏิเสธแสดงความคิดเห็นต่อรายงานล่าสุดเกี่ยวกับข้อตกลงสารภาพผิดแลกกับการปล่อยตัวกลับประเทศ เช่นเดียวกับทำเนียบนายกรัฐมนตรีแคนาดาและกระทรวงการต่างประเทศแคนาดา ส่วน หัวเว่ย ก็ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นเช่นกัน
ล่าสุด แกรี บอทติ้ง ทนายความในแวนคูเวอร์และเป็นผู้เขียนหนังสือหลายเล่มเกี่ยวกับการส่งผู้ร้ายข้ามแดนรวมถึง “การส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างแคนาดาและสหรัฐอเมริกา” “การปฏิบัติตามกฎหมายผู้ร้ายข้ามแดนของแคนาดา” และ “กฎหมาย Halsbury ของแคนาดา - การส่งผู้ร้ายข้ามแดน” ได้กล่าวแสดงความเห็นเกี่ยวกับข้อต่อรองสารภาพแล้วปล่อยตัวว่า "สหรัฐฯ วางกับดัก เมิ่ง หว่านโจว หรือไม่?
เพราะหาก เมิ่ง ยอมรับว่าทำผิด เธอจะมีประวัติอาชญากรรมและมีหลายประเทศ (รวมถึงแคนาดา) สามารถใช้คำสารภาพนี้กับเธอได้
แกรี่ บอกว่าตนเองกล่าวจากประสบการณ์อันแสนเจ็บปวดในการทำคดีของลูกความในการสู้คดีกับอัยการรัฐ
"ลูกความคนหนึ่งของผมซึ่งเป็นพลเมืองสหรัฐฯ เป็น CFO ใน บริษัท ที่จดทะเบียนในสหรัฐอเมริกา ที่ดำเนินการโดยสามีชาวแคนาดาของเธอ ลูกชายสองคนของพวกเขาเกิดในแคนาดา ชาวอเมริกันต้องการส่งตัวทั้งคู่ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน"
อัยการบอกผมว่าหากเธอสารภาพผิดเธอจะได้รับ “อิสระภาพ” และมีอิสระที่จะอยู่กับลูก ๆ ของเธอ ดังนั้นเธอจึงยอมรับสารภาพฯ ไป
อย่างไรก็ตาม นั่นทำให้มีนัยยะทางนิตินัย คือมีการกระทำผิด หมายความว่าสามีของเธอจะต้องมีความผิดเช่นกันและเขาได้รับโทษที่รุนแรงกว่าเธอนั้นมาก
ยังมีกรณีอื่น ๆ อีก ที่คล้าย ๆ กับที่ทนายความของเมิ่งได้รับข้อเสนอล่าสุด
ในกรณีของเมิ่ง มีการโต้แย้งว่า สหรัฐฯ มีเขตอำนาจศาลเหนือบรรษัทอเมริกัน อย่างไรก็ตาม หัวเว่ย ไม่ได้จดทะเบียนในสหรัฐอเมริกา และเมิ่ง หว่านโจว ไม่ได้เดินทางไปสหรัฐฯ ที่จริงแล้วสหรัฐฯไม่มีเขตอำนาจศาลเหนือเมิ่ง หรือ บริษัทหัวเว่ย
แกรี่ กล่าวว่า เห็นได้ชัดมากขึ้นว่า การออกคำฟ้องต่อต้าน หัวเว่ย เป็นการเคลื่อนไหวทางการเมือง เพื่อแย่งชิงความสำเร็จในตลาด 5G และทำให้บริษัทสหรัฐมีอำนาจเหนือกว่า หัวเว่ยในสาขาที่กำลังขยายตัว
นั่นคือ แม้ว่า เมิ่ง จะยอมรับสารภาพฯ ในอำนาจศาลแคนาดา แต่สหรัฐฯ ก็สามารถติดตามเธอครั้งแล้วครั้งเล่า เมื่อใดก็ตามที่เธอย่างเท้าไปในประเทศที่สหรัฐฯ มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน