โดย ร่มฉัตร จันทรานุกูล มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และธุรกิจระหว่างประเทศ วิทยาลัยนานาชาติ กรุงปักกิ่ง (UIBE)
หนึ่งในข่าวฮิตฮอตในจีนช่วงนี้คือเรื่องของการประกาศเปิดสวนสนุก ‘ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ต’ (Universal Beijing Resort) และขายบัตรอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 ก.ย.นี้หลังจากการทดสอบความกดดันภายในมากว่าสามเดือน ‘ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ต’ ได้รับความสนใจจากประชาชนจีนอย่างมากโดยเฉพาะเพื่อนๆรอบตัวผู้เขียน รวมทั้งตัวผู้เขียนเองก็ตื่นเต้นกับสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ในปักกิ่งนี้ ‘ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ต’ ตั้งอยู่ในเขตทงโจว เป็นเขตที่อยู่ทางตอนใต้ของปักกิ่ง เป็น ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอแห่งที่ 3 ในเอเชียและแห่งที่ 5 ของโลก
จุดเริ่มต้นของโครงการร่วมมือสร้างสวนสนุกระดับอินเตอร์แห่งนี้คือในปี 2001 รัฐบาลปักกิ่งได้เซ็น MOU ความตกลงร่วมมือเบื้องต้นกับ ‘ยูนิเวอร์แซลแห่งสหรัฐอเมริกา’ โดยเป็นโปรเจคดึงการลงทุนจากต่างชาติของรัฐบาลปักกิ่งเขตทงโจว และในปี 2015 ได้เซ็นสัญญาร่วมลงทุนและเริ่มการก่อสร้าง สำหรับ‘ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ต’ นี้เป็นการร่วมลงทุนกันระหว่าง ยูนิเวอร์แซล พิคเจอร์ส (Universal Pictures) ถือหุ้น 30% และ เป่ยจิง ทัวริซึม กรุ๊ป (Beijing Tourism Group) ถือหุ้น 70% ขนาดการลงทุนรวมมากกว่า 1 ล้านล้านหยวนใช้ก่อสร้างกว่า 6 ปีจนถึงปัจจุบัน ‘ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ต’ มีพื้นที่ประมาณ 4 ตร.กม. ภายในจะมีพื้นที่หลัก 7 ธีม มีเครื่องเล่นและพื้นที่ให้เยี่ยมชม 37 แห่ง มีพื้นที่ชมการแสดง 24 แห่ง ร้านอาหาร 80 แห่ง และร้านขายของที่ระลึก 30 แห่ง
ส่วนราคาขายของบัตรขึ้นลงตามฤดูกาลท่องเที่ยว อย่างช่วงนอกฤดูท่องเที่ยว ช่วงฤดูหนาวราคาบัตรจะถูกที่สุดประมาณ 400 กว่าหยวน หรือประมาณ 2,000 กว่าบาท เมื่อถึงช่วงเวลาปกติช่วงฤดูใบไม้ผลิหรือใบไม้ร่วง อากาศไม่หนาวจัดมากราคาตั๋วจะอยู่ที่ประมาณ 500 กว่าหยวน หรือประมาณ 2,500 บาท ช่วงฤดูท่องเที่ยวคือช่วงที่เหมาะกับการท่องเที่ยวในปักกิ่ง ปิดเทอมฤดูร้อนค่าตั๋วจะอยู่ที่ประมาณ 600 กว่าหยวน หรือ 3,000 กว่าบาท ช่วงที่แพงที่สุดคือเทศกาลหยุดยาวกอปรกับช่วงฤดูท่องเที่ยว ค่าตั๋วจะสูงถึง 750 หยวน หรือประมาณ 3,750 บาท ส่วนค่าอาหารต่อมื้อเฉลี่ยต่อคนในสวนสนุกจะประมาณ 100 หยวนหรือ 500 บาท ดังนั้นหากคิดกันหลวมๆ ต้นทุนในการท่องเที่ยวยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ต ในแต่ละครั้งจะประมาณ 1,000 หยวน หรือประมาณ 5,000 บาทต่อคน ไม่รวมของที่ระลึกที่อยากซื้อ
ในปีแรกของการเปิดสวนสนุก ‘ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ต’ ทางการประเมินว่าจะรับนักท่องเที่ยวทั้งปี 10 ล้านคน และหลังจากการสร้างแล้วเสร็จทุกเฟส(หมายถึงในส่วนที่พัก โรงแรมทั้งหมด) จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาทั้งปีมากกว่า 30 ล้านคนและจะกลายเป็นสวนสนุกแบบบูรณาการมีทุกอย่างเพียบพร้อมที่ใหญ่ที่สุดในโลก สร้างรายได้ต่อปีมากกว่า 1 หมื่นล้านหยวน สามารถที่จะเสริมสร้างและช่วยเหลือธุรกิจที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทาน(Supply chain) ในกว่า 100 ภาคอุตสาหกรรม ผู้เขียนมองว่าการเข้ามาของยูนิเวอร์แซลมีความสำคัญอย่างมากต่อเศรษฐกิจท้องถิ่นโดยจะช่วยกระตุ้นการจ้างงานของผู้คนได้หลายร้อยตำแหน่ง กระตุ้นห่วงโซ่อุปทานภายในประเทศจีนได้อีก อุตสาหกรรมที่ผลิตของให้กับยูนิเวอร์แซล จะได้ประโยชน์จากตรงนี้อย่างมาก และผู้เขียนก็เชื่อว่ารัฐบาลท้องถิ่นปักกิ่งและรัฐบาลกลางของจีนเล็งเห็นความสำคัญตรงนี้ถึงเปิดรับให้ ยูนิเวอร์แซลเข้ามาลงทุน แต่ไม่ใช่แค่นั้น เพราะสวนสนุกแห่งนี้จะต้องได้มาตรฐานโลก ทีมงานสร้าง วิศวกรและระบบการบริหารจะเป็นแบบอย่างให้ธุรกิจจีนเรียนรู้ได้อีก เพราะฉะนั้นโปรเจคนี้บอกได้ว่า “ยิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว”
อีกประการหนึ่งคือเพราะความต้องการของจีนมีมาก ผู้บริโภคจีนที่มีศักยภาพมีความต้องการอย่างแรงกล้าที่จะไปเที่ยวสวนสนุกระดับโลกแบบนี้ ขณะที่ในจีนยังมีแหล่งท่องเที่ยวแบบนี้ไม่เพียงพอสนองความต้องการ ยกตัวอย่างเช่น ‘ดิสนีย์แลนด์ เซี่ยงไฮ้’ คนไปเที่ยวเยอะมากทุกวัน ยิ่งช่วงฤดูท่องเที่ยว เครื่องเล่นประเภทหนึ่งต้องต่อแถวกันยาวกว่า 3-4 ชั่วโมงเลยทีเดียว ค่าตั๋วถึงแม้ว่าจะสูงก็ยังมีคนต้องการเข้าไปเที่ยว และในอนาคต ‘ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ต’ จะกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของปักกิ่งไปโดยปริยาย โดยการเดินทางก็สะดวกมีรถไฟฟ้าใต้ดินไปถึงเลย แต่ในช่วงเริ่มต้นนี้ยังมีเรื่องของการป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 อยู่ต้องควบคุมปริมาณนักท่องเที่ยวตามคำสั่งของรัฐบาลท้องถิ่น ทำให้การคาดการณ์รายได้ปีนี้ของ ‘ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ต’ อาจจะทำได้ยาก แต่ความเติบโตและความร้อนแรงของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่นี้เป็นสิ่งที่น่าจับตา
แต่หากดูจากรายได้ของสวนสนุกยูนิเวอร์แซลทั่วโลกก่อนมีการระบาดของโควิด-19 ในปี 2018 และ 2019 รายได้รวมของทั้งสองปีนี้แบ่งเป็น 5.6 หมื่นล้านดอลลาร์ และ 5.9 หมื่นล้านดอลลาร์ ทั้งสองปีนี้มีกำไรรวมถึง 2.4 หมื่นล้านดอลลาร์เลยทีเดียว โดยยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ต แห่งใหม่ตั้งอยู่ในจีนนี้ก็ถือว่าตั้งอยู่ในตำแหน่งที่มีศักยภาพสูงอย่างยิ่ง
มีการประเมินจากศูนย์วิจัยจงซิ่นของจีนได้กล่าวว่า ‘ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ต’ รายรับต่อปีน่าจะสูงถึง 2.5-3 แสนล้านหยวนและหากคำนวณจากอัตรากำไรของยูนิเวอร์แซล ในปัจจุบัน ‘ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ต’ น่าจะใช้เวลาเพียง 4 ปีในการคืนทุน
อาจารย์ประจำสถาบันวิจัยการท่องเที่ยวจีนนางตงเหมย เคยให้ความเห็นเกี่ยวกับ ‘ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ต’ ไว้ว่า สวนสนุกแห่งใหม่นี้มีข้อได้เปรียบและข้อโดดเด่นอยู่สามด้านคือ หนึ่งการเติบโตของ ‘กลุ่มเมืองจิงจินจี้’ หมายถึงกลุ่มเมืองที่มีปักกิ่ง เทียนจินและเขตเหอเป่ยเข้ารวมกันเป็นกลุ่มบริโภคที่มีศักยภาพ และในพื้นที่นี้ก็ยังไม่มีสวนสนุกสถานบันเทิงระดับโลกแบบนี้นับเป็นที่แรก สองคือปักกิ่งเองเป็นศูนย์รวมวัฒนธรรมของประเทศ คนทั่วโลกกำลังเข้ามาที่ปักกิ่ง หลังจากสถานการณ์โรคระบาดผ่านไปจะมีโอกาสอย่างมหาศาล สามคือจากการสำรวจความต้องการของผู้บริโภคในจีน ต่างก็ตั้งตารอกับการเปิดรับนักท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการของยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ต
ประเด็นสุดท้ายคือ ‘ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ต’ คือการเข้ามาของทุนต่างชาติร่วมกับทุนจีน โดยทุนต่างชาติมีเปอร์เซ็นต์ที่ต่ำกว่า นั่นหมายความว่าจะมีความเป็น “Chinese Element” ค่อนข้างสูงทั้งนี้เพื่อปรับให้เข้ากับตลาดผู้บริโภคจีนด้วย ทางยูนิเวอร์แซล จะเป็นอีกกำลังที่จะช่วยชูและส่งเสริมวัฒนธรรมจีน อย่างเช่นมีส่วนของ ‘ธีมกังฟูแพนด้า’โดยเฉพาะ ที่เน้นบรรยากาศและใส่อัตลักษณ์ของความเป็นจีนเข้าไป
ในช่วงของการทดลองเปิดสามเดือนที่ผ่านมาก็ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก และในส่วนของโซนอาหาร 65% เป็นอาหารจีนและเอเชีย และในช่วงของการเริ่มต้นเปิด ‘ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ต’ อย่างเป็นทางการนี้ก็ต้องการรับสมัครเจ้าหน้าที่และมีตำแหน่งงานที่เสนอ อย่างในเดือนนี้มีการเปิดรับสมัคร 100 กว่าตำแหน่งงาน ฐานเงินเดือนในตำแหน่งที่มีความชำนาญด้านเทคนิคต่างๆก็จะมีอัตราเงินเดือนที่ประมาณ 10,000-30,000 หยวนหรือ 50,000 -150,000 บาทเลยทีเดียว
การเปิดทำการของ ‘ยูนิเวอร์แซล ปักกิ่ง รีสอร์ต’ ในโซเซียลจีนก็มีทั้งสนับสนุนตั้งตารอคอย ก็มีอีกด้านที่คอมเมนท์ว่าค่าใช้จ่ายค่าตั๋วและค่าอาหารข้างในแพงเกินไป ทำให้คนที่อยากไปเที่ยวไม่มีโอกาส ก็มีคนมองอีกว่าสินค้าและบริการหลากหลายประเภทในตลาดก็มีกลุ่มเป้าหมายของลูกค้าอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าจะมีราคาสูงขนาดนี้คนที่ยอมจ่ายเพื่อไปเที่ยวก็ยังมีเยอะอยู่ดี เป็นเรื่องของความต้องการของปัจเจกบุคคล ความคุ้มค่าของสิ่งนั้นๆมากกว่า